BWG เพิ่มทุน 1.44 พันล้านหุ้น ลุยโรงไฟฟ้าขยะ-ผลิตเชื้อเพลิง SRF

HoonSmart.com>> 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ “เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน”(BWG), “เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์”(ETC) และ”กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์”(GULF) ร่วมลงนามลงทุนโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม จำนวน 12 โครงการ และโครงการลงทุนโรงงานผลิตเชื้อเพลิง SRF จำนวน 3 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 20,800 ล้านบาท ด้าน BWG เพิ่มทุน 1.4 พันล้านหุ้น ขายบุคคลในวงจำกัด (PP) 540 ล้านหุ้น และรองรับการขาย BWG-W6 จำนวน 900.199 ล้านหน่วย นำเงินไปลุยลงทุนโรงไฟฟ้าขยะ-ผลิตเชื้อเพลิง SRF

บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน (BWG) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 11 มี.ค.67 อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ อีกจำนวน 360,049,884.75 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 1,350,299,308.75 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 5,401,197,235 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 1,710,349,193.50 บาท แบ่งออกเป็น 6,841,396,774 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1,440,199,539 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อรองรับการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 540,000,000 หุ้น และรองรับการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 6 (BWG-W6) ให้แก่ ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (Preferential Public Offering: PPO) จำนวน 900,199,539 หน่วย

ทั้งนี้ ได้อนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 67 เพื่อพิจารณาและอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำานวนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 540,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท (Par) มูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 135,000,000 บาท (หรือคิดเป็นร้อยละ 10.00 ของทุนชำระแล้วของบริษัทฯ ณ วันที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2567) เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) โดยจะต้องไม่เป็นการเสนอขายหุ้นในราคาต่ำ

นอกจากนี้ อนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 6 (BWG-W6) จำนวนไม่เกิน 900,199,539 หน่วย (หรือคิดเป็นร้อยละ 16.67 ของทุนชำระแล้วของบริษัทฯ ณ วันที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2567) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่คิดมูลค่า (ศูนย์บาท) ในอัตราส่วน 6 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 BWG-W6 โดยมีอายุ 1 ปี 3 เดือน นับจากวันที่ได้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ BWG-W6 มีอัตราการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วยต่อหุ้นสามัญ 1 หุ้น และมีราคาการใช้สิทธิเท่ากับ 0.70 บาทต่อหุ้น (ยกเว้นกรณีการปรับราคาใช้สิทธิ) โดยวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิ (Record date) 26 มี.ค. 2567 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิ 25 มี.ค. 2567

ทั้งนี้ ตามที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 เรื่อง ประกาศเชิญชวนการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565–2573 สำหรับเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรม (ปี 2564) โดยเปิดโอกาสให้ผู้สนใจยื่นคำร้องและข้อเสนอขายไฟฟ้า และได้ประกาศรายชื่อผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (Very Small Power Producer : VSPP) ที่ได้รับการคัดเลือก เมื่อวันที่ 5 เม.ย.67 นั้น

บริษัทย่อย 10 แห่งของบริษัท เก็ท กรีน พาวเวอร์ (GGP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ (ETC) ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เมื่อวันที่ 16 ต.ค.66 เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม 10 โครงการ โดยสามารถจำหน่ายไฟฟ้าตามสัญญา 8 เมกะวัตต์ต่อโครงการ รวมทั้งสิ้น 80 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นประมาณ 15,000 ล้านบาท (1 บริษัทย่อย : 1 โครงการ : 8 เมกะวัตต์) เพื่อให้การดำเนินการในโครงการดังกล่าวเป็นไปอย่างราบรื่น จึงตัดสินใจลงทุนในโครงการดังกล่าวในสัดส่วนร้อยละ 50.00 กับบริษัท กัลฟ์ เวสท์ ทู เอ็นเนอร์จี โฮลดิ้งส์ (GWTE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) โดย ETC ได้พิจารณาคุณสมบัติของผู้ร่วมลงทุนจากศักยภาพด้านเงินทุน ฐานะทางการเงิน ความรู้และประสบการณ์ การประกอบธุรกิจ ที่สามารถร่วมมือหรือขยายธุรกิจกับโครงการดังกล่าว เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของ ETC

ทั้งนี้ การร่วมลงทุนดังกล่าวจะส่งผลให้ ETC ใช้เงินลงทุนน้อยลงจากเดิมจำนวนประมาณ 15,000 ล้านบาท เป็นจำนวนประมาณ 7,500 ล้านบาท สำหรับการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม 10 โครงการ นอกจากการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม 10 โครงการข้างต้น ETC จะเข้าร่วมลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 33.00 ในบริษัท ซันเทค อินโนเวชั่น พาวเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง GWTE และบริษัท เวสท์เทค เอ็กซ์โพเนนเชียล (WTX) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท มิลล์คอน สตีล (MILL) ในการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม 2 โครงการ ซึ่งได้ทำการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement) กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เรียบร้อยแล้ว โดยสามารถจำหน่ายไฟฟ้าตามสัญญารวม 16 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นประมาณ 3,200.00 ล้านบาท (1 บริษัทย่อย : 1 โครงการ : 8 เมกะวัตต์) ซึ่งการร่วมลงทุนในโครงการนี้ ETC จะใช้เงินลงทุนจำนวนประมาณ 1,056 ล้านบาท สำหรับการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม 2 โครงการ

นอกจากนี้ อนุมัติการเข้าลงทุนในโครงการโรงงานผลิตเชื้อเพลิงจากขยะอุตสาหกรรม (SRF) ของบริษัท เซอร์คูลาร์ แคมป์ (CC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ 3 โครงการ โดยกำหนดมูลค่าการลงทุนประมาณ 2,600 ล้านบาท เพื่อรองรับปริมาณความต้องการเชื้อเพลิงจากขยะอุตสาหกรรมคุณภาพสูงสำหรับโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมที่ ETC กำลังจะร่วมลงทุน รวมจำนวนทั้งสิ้น 12 โครงการ โดยที่การเข้าลงทุนในโครงการดังกล่าว บริษัทฯ จะเข้าลงทุนร่วมกับ GWTE ในสัดส่วนเท่ากันที่ร้อยละ 50.00 ซึ่งบริษัทฯจะต้องใช้เงินลงทุนรวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 1,300 ล้านบาท

พร้อมอนุมัติการกู้ยืมเงินจากบริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ (ETC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมรวมร้อยละ 51.07 ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้วของ ETC ในวงเงินไม่เกิน 350.00 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.00 ต่อปี ระยะเวลากู้ยืมเงิน 4 ปี นับตั้งแต่วันที่เกิดรายการดังกล่าว รวมมูลค่าเงินกู้ยืมพร้อมดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญาทั้งสิ้นไม่เกิน 404.93 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ และเพื่อบริหารสภาพคล่อง

พร้อมกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 67 ในวันที่ 29 เม.ย. 67

นายศุภวัฒน์ คุณวรวินิจ รักษาการกรรมการผู้จัดการ ETC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ร่วมลงนามในสัญญาผู้ถือหุ้นกับ บริษัท กัลฟ์ เวสท์ ทู เอ็นเนอร์จี โฮลดิ้งส์ “GWTE” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เพื่อร่วมพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม จำนวน 12 โครงการ และโครงการลงทุนโรงงานผลิตเชื้อเพลิง SRF จำนวน 3 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 20,800 ล้านบาท ดังนี้

1.การลงนามในสัญญาผู้ถือหุ้นระหว่าง WETC” กับ “GWTE” เพื่อเข้าลงทุนในบริษัทเก็ท กรีน พาวเวอร์ จำกัด “GGP” ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม จำนวน 10 โครงการ เพื่อจำหน่ายไฟฟ้ารวม 80 เมกะวัตต์ ในสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 50:50 ซึ่ง “GWTE” มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจพร้อมทั้งมีศักยภาพทางการเงิน เนื่องจากการลงทุนในโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม จำนวน 10 โครงการใช้เงินลงทุนถึง 15,000 ล้านบาท

2.การลงนามในสัญญาผู้ถือหุ้นระหว่าง “BWG” กับ “GWTE” เพื่อเข้าร่วมลงทุนในบริษัท เซอร์คูลาร์ แคมป์ จำกัด (“CC”) ผู้พัฒนาโครงการโรงงานผลิตเชื้อเพลิงจากขยะอุตสาหกรรม(SRF) จำนวน 3 โครงการ ในสัดส่วนการถือหุ้น 50:50 เช่นกัน มูลค่าโครงการรวม 2,600 ล้านบาท เพื่อจำหน่ายเชื้อเพลิงจากขยะอุตสาหกรรม(SRF) ให้กับโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมทั้ง 12 โครงการ

3.การลงนามสัญญาผู้ถือหุ้นระหว่าง ETC กับ GWTE และบริษัท เวสท์เทค เอ็กซ์โพเนนเชียล จ ากัด (“WTX”) เพื่อให้ ETC เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมจำนวน 2 โครงการ ภายใต้บริษัท ซันเทค อินโนเวชั่น พาวเวอร์ จำกัด (“SIP”) โดยการเข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งปัจจุบัน GWTE และ WTX ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 51.00 และ 49.00 ตามลำดับ ซึ่งภายหลังจากการเพิ่มทุนดังกล่าวจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นใน SIP ของ ETC อยู่ที่ 33% GWTE อยู่ที่ 34% และ WTX อยู่ที่ 33% ซึ่งปัจจุบัน SIP มีการดำเนินการ ไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมทั้ง 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,200 ล้านบาท โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญา รวม 16 เมกะวัตต์ ซึ่งได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นระยะเวลา 20 ปี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อ วันที่ 16 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา

ด้าน นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ BWG กล่าวว่า ความร่วมมือกับ GULF ในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำการเป็นผู้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมเบอร์ 1 ของประเทศ โดยการดำเนินธุรกิจด้านโรงงานผลิตเชื้อเพลิงจากขยะอุตสาหกรรมของ BWG รวมทั้งโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมของ ETC และบริษัทในเครือถือเป็นการให้ความสำคัญด้านการลงทุนที่สร้างโอกาสการเติบโตของเศรษฐกิจหมุนเวียนตามนโยบายภาครัฐ Bio-Circular-Green Economy (BCG) โดยการนำขยะอุตสาหกรรมมาแปรรูปเพื่อเป็นพลังงานนี้ จะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อลดปริมาณของเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสอดรับกับนโยบายของภาครัฐที่มุ่งหวังให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านพลังงานสีเขียว และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

“BWG มีประสบการณ์มามากกว่า 20 ปี ในการเป็นผู้ให้บริการด้านการจัดการกากอุตสาหกรรม (ขยะอุตสาหกรรม) อย่างครบวงจร และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงการแปรรูปขยะอุตสาหกรรมที่ไม่เป็นของเสียอันตรายเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับการผลิตไฟฟ้า (SRF) และ ETC เป็นผู้ที่มีความชำนาญในการผลิตไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมและขยะ ชุมชนที่มีมาตรฐานสูง”

เมื่อเวลา 10.44 น.หุ้น BWG ลบ 4.76% มาที่ 0.60 บาท ลดลง 0.03 บาท มูลค่าซื้อขาย 88.08 ล้านบาท
หุ้น ETC ลบ 0.68% มาที่ 2.94 บาท ลดลง 0.02 บาท มูลค่าซื้อขาย 31.41 ล้านบาท