“คิงส์ฟอร์ด” คาดดัชนีทรงตัว แนะ FM-TACC

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวน้มดัชนี SET วันนี้ มีโอกาสทรงตัว ระหว่างรอประเมินผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีของทรัมป์ ติดตามสภาลงคะแนนในมติไม่ไว้วางใจนายกฯ วางแนวรับอยู่ที่ 1,170 – 1,180 จุด ส่วนแนวต้าน 1,190 – 1,200 จุด เสิร์ฟหุ้นเด่น FM, TACC

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,170 – 1,180 จุด แนวต้าน 1,190 – 1,200 จุด คาดดัชนีมีโอกาสทรงตัว ระหว่างรอประเมินผลกระทบจากมาตรการปรับขึ้นภาษีศุลกากรในสัปดาห์หน้า แนะนำทยอซื้อกลุ่มอาหาร CPF,GFPT,TFG,BTG ปรับขึ้นตามราคาหมู, ไก่ และอุปสงค์จากตลาดต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น หุ้น PTTEP, BCP คาดมีโอกาสซื้อหุ้นคืน, เก็งกำไรหุ้นมีสัญญาณบวกทางเทคนิค เช่น ADVANC,TRUE,AEONTS

ปัจจัยในประเทศ สอท.เผยยอดส่งออกรถยนต์ ก.พ. อยู่ที่ 81,323 คัน -8.3% YoY และยอดขายส่งออกรถยนต์ 2 เดือนปีนี้ -18.1%

ประเด็นที่ติดต้องวันนี้ คือ การลงคะแนนในมติไม่ไว้วางใจนายก ฯ รวมถึงการปรับ ครม.หลังผ่านการอภิปราย ส่วนวันพุธหน้า ติดตามว่าประเทศไทยจะอยู่ในข่าย 15 ประเทศที่สหรัฐจะใช้ มาตรการภาษีแบบตอบโต้หรือไม่

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐปิดเมื่อคืนนี้ DJIA +0.01%, S&P500 +0.16%, Nasdaq +0.46% ได้แรงหนุนจากกลุ่มบริการสื่อสาร +1.43%, สินค้าฟุ่มเฟือย +1% นำโดย Apple +1.4%, Tesla +3.4% ขณะที่กลุ่มสาธารณูปโภค -1.6%, เฮลธ์แคร์ -1.29% แม้ว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะส่งสัญญาณยืดหยุ่นต่อ มาตรการปรับขึ้นภาษีศุลกากรในวันที่ 2 เม.ย. แต่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในเร็ว ๆ นี้

ทางด้านข้อมูลเศรษฐกิจนั้น Moody’s เตือนสถานะด้านการคลังของสหรัฐมีแนวโน้มลดลง เป็นผลจากการขาดดุลประมาณเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ความสามารถชำระหนี้ลดลง

ส่วน Conference Board เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ มี.ค.-7.2 จุด อยู่ที่ 92.9 และ ก.พ. 100.1 ตำสุดนับตั้งแต่ ม.ค.64 จากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย

สัปดาห์นี้วันศุกร์ติดตาม US PCE ก.พ. คาดทรงตัวที่ 2.5% YoY และ 0.3% MoM ซึ่งเป็นดัชนีที่เฟดใช้วัดเงินเฟ้อสหรัฐ

หุ้นเด่นแนะนำ FM (ซื้อ / ราคาเป้า IAA Consensus 7.20 บาท) กลุ่มส่งออกไก่มีปัจจัยหนุนจากประเทศตะวันตกและเอเชียเหนือได้รับผลกระทบจากโรคไข้หวัดนกระบาด ซึ่งทำให้ปริมาณส่งออกจากไทยเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ FM ตั้งเป้ารายได้ในปี 68 เติบโต +12-15%YoY แบ่งเป็น ธุรกิจไก่ปรุงสุก (Cook added value : CAV) +20-25% จาก demand ที่สูงขึ้น และการขยายกำลังการผลิตในปีก่อน ส่วนธุรกิจไก่สดชำแหละ +5-7% จากการขยายตลาดส่งออกใหม่ๆ นอกจากนี้คาด GPM ยังได้อานิสงส์จากต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลงทั้งกากถั่วเหลืองและข้าวโพด

สำหรับแผนระยะยาวบริษัทตั้งเป้าหมายยอดขาย 1 หมื่นล้านบาทในปี 70 จากการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มร้านอาหาร quick service restaurant และลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพ โดยจะลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพกำลังการผลิต และทำระบบ automation ด้านฐานะทางการเงินเข้มแข็งด้วย D/E ต่ำ ROE สูง สามารถจ่าย Div.Yield ได้สูง และ Valuation ปัจจุบันไม่แพง

TACC (ซื้อ /ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 6.00 บาท) เข้าสู่ฤดูร้อนเป็น High Season ของกลุ่มเครื่องดื่ม คาดว่าภาพรวมการดำเนินงานยังมีแรงหนุนต่อเนื่องจากธุรกิจ B2B จาก 7-11 ขณะที่สินค้าใหม่ๆยังมีต่อเนื่อง โดยล่าสุด 6 มีนาคม – 30 เมษายน 2568 ออกเครื่องดื่มใหม่ “น้ำผึ้งมะนาว” (Honey Lime)

ด้าน TACC เองปีนี้ ตั้งเป้าผลักดันรายได้ให้เติบโต Double Digit ทะลุ 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68 และ69 กำไรสุทธิของ TACC* จะอยู่ที่ระดับ 276ล้านบาท (+11.61%YoY) และ 324 ล้านบาท (+17.39%YoY) ตามลำดับ