ครม.-แบงก์รัฐแจกของขวัญ ตปท.แห่เที่ยวไทยแตะ 27ล้านคน

HoonSmart.com>>รัฐแจกข่าวดีส่งท้ายปี นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยแตะ 27 ล้านคน ครม.ผ่านร่างงบประมาณปี’67 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.3%  ขยายเวลาลดอากรรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ 2 ปี ด้านคลังจัดแพ็คเกจใหญ่ของขวัญปีใหม่ 30 มาตรการ ลดค่าโอน-จดจำนองบ้าน” เริ่ม“Easy E-Receipt” 5 หมื่นบาท ซื้อสินค้า 1 ม.ค.-15 ก.พ.67 แบงก์รัฐรับลูก EXIM BANK จัดเต็ม ธอส.แจก 1,000 บาทลูกค้าชั้นดี ด้านตลาดหุ้นบวก 4.62 จุด  ต่างชาติซื้อหุ้น 293.62 ล้านบาท-ตราสารหนี้สุทธิ 5,318 ล้านบาท ค่าเงินบาทปิด 34.58

น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยแตะระดับ 27 ล้านคน ในช่วงเดือนสุดท้ายของปีนี้ โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (18-24 ธ.ค.2566) มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาทั้งสิ้น 796,808 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 120,303 คน มากถึง 16.60% จากสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวเกือบทุกกลุ่ม ทั้งจากมาเลเซีย (ตลาดระยะใกล้) และนักท่องเที่ยวภูมิภาคยุโรป (ตลาดระยะไกล) เนื่องจากมีวันหยุดต่อเนื่องในวันคริสต์มาส และการเดินทางในช่วง Winter Holiday ในช่วงสิ้นปีของภูมิภาคยุโรป

ด้านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 26 ธ.ค.2566 ไฟเขียว ผ่านร่างงบประมาณรายจ่ายปี 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.3% (YoY) เตรียมเข้าสู่ที่ประชุม สภาผู้แทนราษฎร ต่อในวันที่ 3 4 ม.ค. 2567 เพื่อพิจารณา วาระที่ 1  อนุมัติเป้าหมายของนโยบายการเงินประจำปี 2567 ซึ่งเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และกระทรวงการคลัง กำหนดให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วง 1-3% เป็นเป้าหมายของนโยบายการเงินด้านเสถียรภาพราคาสำหรับระยะปานกลาง

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการ/โครงการ ของกระทรวงการคลัง ตลอดจนหน่วยงานในสังกัด เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2567  รวมทั้งสิ้นกว่า 30 มาตรการ/โครงการ  เช่น มาตรการลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 2% เหลือ 1% และการจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% (เฉพาะการโอนและจดจำนองในคราวเดียวกัน) สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัย (ทั้งบ้านมือ 1 และมือ 2) ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท/สัญญา ไม่รวมถึงกรณีการขายเฉพาะส่วน ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2567

มาตรการ Easy E-Receipt สนับสนุนการบริโภคในประเทศ และสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีให้ใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ โดยให้ผู้มีเงินได้ ไม่รวมห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท โดยจะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร โดยซื้อสินค้าตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ.2567

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) จัดเต็มแพ็กเกจของขวัญปีใหม่ 2567 เพื่อผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึง ESG เปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อเพื่อธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” ดอกเบี้ยต่ำ 2.99% ต่อปี นาน 3 เดือน และยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้าสำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติภายในระยะเวลามาตรการของขวัญปี 2567  “สินเชื่อเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการที่เริ่มต้นส่งออก” วงเงินหมุนเวียนสูงสุด 3 ล้านบาทต่อราย สำหรับผู้ประกอบการไทย Size S ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมที่สนใจเริ่มต้นส่งออกหรือนำเข้าเพื่อส่งออก และ “มาตรการช่วยเหลือต่อเนื่องแก่กลุ่ม SMEs ที่เป็น NPLs จากช่วงโควิด-19” ปรับลดดอกเบี้ยและพักชำระดอกเบี้ย-เงินต้นตามเงื่อนไขของธนาคาร

ส่วนธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มอบ 1,000 บาท ให้กับลูกค้ารายย่อย และลูกค้าสวัสดิการ สถานะบัญชีปกติ วงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท มีวินัยการผ่อนชำระเงินงวดสินเชื่อบ้าน  โดยจะต้องดาวน์โหลด Application :GHB ALL GEN Application:GHB ALL GENG H Bank พร้อมผูกบัญชีเงินฝาก ออมทรัพย์ ธอส. และชำระเงินงวดผ่าน ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 เดือน (ในงวดเดือนพ.ย.-ธ.ค. 2566 หรือ งวดเดือนธ.ค.2566-ม.ค. 2567) และรับบริการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อรับโอนเงินของขวัญปีใหม่จากธนาคารตั้งแต่เดือนธ.ค. 2566 – ก.พ.2567

ด้านตลาดหลักทรัพย์วันที่ 26 ธ.ค.66 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,413.45 จุด เพิ่มขึ้น 4.62 จุด หรือ +0.33% มูลค่าซื้อขาย 33,948.24 ล้านบาท  นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 293.62 ล้านบาท สถาบันไทยซื้อสุทธิ 1,258.60 ล้านบาท  ส่วนบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 934.73 บาท นักลงทุนไทยขาย 617.48 ล้านบาท  ด้านค่าเงินบาท นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่าปิดที่ 34.58 บาท/ดอลลาร์  แข็งค่าจากเปิดดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 34.60 บาท/ดอลลาร์