TRC เคาะเพิ่มทุน-ออกหุ้นกู้ ลุยลงทุนเหมืองแร่โพแทช 4.4 พันลบ.

HoonSmart.com>> บอร์ด “ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น” (TRC) อนุมัติเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน “อาเซียนโปแตชชัยภูมิ” (APOT) มูลค่ากว่า 4,409 ล้านบาท เดินหน้าโครงการเหมืองแร่โพแทช ชัยภูมิ รับราคาแร่โพแทชปรับตัวสูงขึ้น พร้อมชงผู้ถือหุ้นระดมทุนชุดใหญ่ ออกหุ้นเพิ่มทุน 2,396.78 ล้านหุ้น ขายผู้ถือหุ้นเดิม 4 ต่อ 1 ราคาหุ้นละ 0.20 บาท ออกหุ้นกู้ 2,000 ล้านบาท

บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น (TRC) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 26 ก.ย.2566 มีมติอนุมัติการเข้าลงทุนเพิ่มเติมในหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท อาเซียนโปแตชชัยภูมิ (APOT) ตามสัดส่วนการถือหุ้นเป็นจำนวนไม่เกิน 4,409.47 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 44.09 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 100 บาท เพื่อใช้ในโครงการเหมืองแร่โพแทช พร้อมทั้งอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ อายุไม่เกิน 5 ปี วงเงินรวมไม่เกินจำนวน 2,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ APOT เป็นบริษัทร่วมของบริษัทฯ ถือหุ้นโดยบริษัทย่อยของบริษัทฯ รวม 25.13% ประกอบด้วย TRC Investment Limited และ TRC International Limited ในสัดส่วน 22.46% และ 2.67% ตามลำดับ

พร้อมกันนี้คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวภาวิตา ลี้สกุล เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการและกรรมการบริหาร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 26 ก.น.2566 เป็นต้นไป

การเพิ่มทุนในโครงการเหมืองแร่โพแทช เป็นผลจากในไตรมาส 1 ปี 2566 ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และ การประยุกต์ใช้แร่โพแทชในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ราคาแร่โพแทชปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงทำให้โครงการเหมืองแร่โพแทชได้รับผลประโยชน์จากแร่โพแทชที่ปรับตัวสูงขึ้น และได้รับความสนใจในการเข้าลงทุนเป็นอย่างมาก ดังนั้น APOT จึงได้มีเรียกเพิ่มทุนเพื่อทบทวนศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเหมืองแร่โพแทช (Feasibility Study) เพื่อกลับมาดำเนินโครงการเหมืองแร่โพแทชอีกครั้ง

พร้อมกันนี้คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติมีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ อีก 299.60 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 1,198.39 ล้านบาท เป็น 1,497.99 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 2,396,786,710 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.125 บาท เพื่อเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นโดยไม่จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทฯ ฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศจำนวนไม่เกิน 2,396,786,710 หุ้น โดยเสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 4 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ราคาหุ้นละ 0.20 บาท ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นอาจจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเกินกว่าสิทธิ (Oversubscription) ได้

บริษัทฯ จะใช้เงินทุนที่ได้รับจากการเพิ่มทุน เพื่อ (1) ใช้ชำระคืนหนี้สินทางการเงินที่มีภาระดอกเบี้ย เพื่อลดภาระหนี้สิน และ ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยของบริษัทฯ โดยจะพิจารณาชำระคืนหนี้สินทางการเงินตามมูลค่าหนี้คงเหลือ และอัตราดอกเบี้ยที่สูงเป็นหลัก และ (2) เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ ช่วยส่งเสริมให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งของโครงสร้างทางการเงินเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ ตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2566 ของ APOT ซึ่งมีมติเพิ่มทุนจดทะเบียนของ APOT เป็นจำนวน 18,000 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 180 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 100 บาท โดยจะออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) โดยในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 APOT ได้มีการเรียกเพิ่มทุนตามสัดส่วนไปแล้วเป็นจำนวน 450.93 ล้านบาท เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ซึ่งบริษัทฯ ได้เพิ่มทุนตามสัดส่วนไปแล้วจำนวน 113.30 ล้านบาท

ส่วนการเพิ่มทุน APOT ส่วนที่เหลือจำนวน 17,549.07 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้เป็นแหล่งเงินทุนในการก่อสร้าง และพัฒนาโครงการเหมือง และโรงแต่งแร่โพแทชที่อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ (โครงการเหมืองแร่โพแทช)

สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการซื้อหุ้นเพิ่มทุน APOT ในครั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ จะใช้แหล่งเงินทุนจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ ประมาณ 600-800 ล้านบาท และ/หรือ การระดมทุนของบริษัทฯ โดยการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ประมาณ 1,534.7-1,734.7 ล้านบาท และ/หรือการออกหุ้นกู้ และ/หรือ การใช้เงินกู้ยืมอื่น ๆ ตามความเหมาะสม ประมาณ 2,000 ล้านบาท

หลังจากผู้ถือหุ้นอนุมัติการเข้าทำธุรกรรมและ APOT ได้รับอนุมัติสินเชื่อสนับสนุนการก่อสร้างโครงการเหมืองแร่โพแทชซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 4 ปี2566 บริษัทฯ จะทยอยจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อชำระหุ้นเพิ่มทุนของ APOT จำนวนไม่เกิน 4,409.47 ล้านบาท โดยกรอบระยะเวลาจะอ้างอิงตามแผนการเรียกเพิ่มทุนของ APOT ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขเบิกเงินกับสถาบันทางการเงิน