หุ้นโรงไฟฟ้าคืนกำไรเร็ว ข่าวดีหนุนราคาแกร่ง

โอกาสของการลงทุน! หุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนแข็งแรงกว่าตลาด EA-GULF ร่วงแรง ดีดกลับเร็ว ส่วน BGRIM-BCPG ลงไม่มาก ปัจจัยบวกหนุน คาดกำไรไตรมาส 3 โต ตุนงานเต็มมือ โอกาสธุรกิจต่างประเทศเปิดกว้าง โรงไฟฟ้า SPP ของกัลฟ์ฯเพิ่ง COD ให้กฟผ. 90 เมกะวัตต์ ตามหลัง บีกริมฯ 133 เมกะวัตต์ ส่วนเสริมสร้างฯ เซ็น PPA โซลาร์ฟาร์ม เวียดนาม 49.6 เมกะวัตต์ EPCO ก่อสร้างและร่วมทุนโซลาร์เวียดนาม 99 เมกะวัตต์

ตลาดหุ้นสวิงแรงรอบนี้ ดัชนีร่วงลงแรงไปต่ำกว่า 1,600 จุด ก่อนตีกลับมาแรงเหนือ 1,670 จุด สนับสนุนให้หุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนดีดกลับมาเร็วกว่า เห็นได้จากบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ราคาลงไปลึกแถว 42 บาท ผ่านมาไม่กี่วันขึ้นมาแตะ 50 บาท ให้อัตราผลตอบแทนเกือบ 20% บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) จากที่ลงไปบริเวณ 72 บาท ขึ้นมาซื้อขายบริเวณ 78 บาท ให้ผลตอบแทนเกือบ 10%

ส่วนบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) และ บริษัท บีซีพีจี (BCPG) ราคาเคลื่อนไหวไม่มาก เพราะมีปัจจัยพื้นฐานรองรับ และยังมีปัจจัยบวกสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2561 บริษัทย่อยของ GULF เริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ภายใต้ประเภทผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP)ในนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งจำนวน 126.8 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตไอน้ำติดตั้งจำนวน 10.0 ตันต่อชั่วโมง มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ.จำนวน 90.0 เมกะวัตต์ เป็นระยะเวลา 25 ปี และมีสัญญาระยะยาวเพื่อจำหน่ายกำลังการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำส่วนที่เหลือให้ลูกค้าอุตสาหกรรม

สำหรับโรงไฟฟ้าแห่งนี้ นับเป็นลำดับที่ 8 จากทั้งหมด 12 โครงการ ซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 1,563.4 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตไอน้ำติดตั้งรวม 225.0 ตันต่อชั่วโมง ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้า SPP ที่เหลืออีก 4 โครงการ คาดว่าจะทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตามกำหนดในระหว่างเดือนม.ค.-ก.ค. 2562

ในวันเดียวกัน 1 พ.ย. 2561 นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) เปิดเผยว่า โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มเวียดนาม Binh Nguyen ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับ การไฟฟ้าแห่งเวียดนาม หรือ Electricity of Vietnam (EVN) เป็นที่เรียบร้อย มีกำลังการผลิตติดตั้ง 49.61 เมกะวัตต์ อัตราค่าไฟฟ้า ที่ 9.35 เซ็นดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะเวลา 20 ปี คาดว่าจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในวันที่ 30 มิ.ย.2562

นอกจากนั้น บริษัทยังมีโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ราชบุรีกำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ ในไตรมาสที่ 4 รวมทั้งปี 2561 จะมี COD รวมประมาณ 38 เมกกะวัตต์ จากปีที่แล้ว มี COD เพียง 1 แห่ง คือโครงการเสริมสร้างพลังงาน กำลังการผลิต 52 เมกะวัตต์ ส่วน โครงการโซลาร์ฟาร์มที่มองโกเลีย กำลังการผลิต 16.4 เมกะวัตต์ การก่อสร้างคืบหน้ากว่า 90% มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถเริ่ม COD ได้เร็วกว่ากำหนดที่คาดไว้ภายในไตรมาส 1/2562 รวมโครงการ Binh Nguyen แล้ว ทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มประมาณ 56 เมกะวัตต์ เริ่ม COD ภายในไตรมาส 2 รวม 157 เมกะวัตต์

ด้านคณะกรรมการ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก(EPCO) มีมติให้บริษัทย่อยลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่จังหวัดฟูเยี้ยน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม จำนวน 2 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 99.216 เมกะวัตต์ โดยสัญญาซื้อขายไฟกับ EVN เป็นเวลา 20 ปี ในอัตรารับซื้อไฟฟ้าที่ 0.0935 ดอลลาร์ต่อหน่วยหรือประมาณ 3.11 บาท โครงการนี้คาดใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 2,834.27 ล้านบาท และมีมติอนุมัติให้บริษัทย่อย ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมทุนในสัดส่วน 65% ด้วย

ก่อนหน้านี้ บริษัทบี.กริม.เพาเวอร์ ใช้บริษัทย่อยในเวียดนาม บริษัท ฟูเยี้ยน ทีทีพี จ็อยสต๊อก คอมพานี ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า กับ Electricity of Vietnam (EVN) แล้ว โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิตติดตั้ง 257 เมกะวัตต์ โดยมีอัตราการรับซื้อไฟฟ้าที่ 9.35 เซ็นต์ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะเวลา 20 ปี คาดว่าจะเปิด COD ได้ภายในวันที่ 30 มิ.ย.2562

ส่วนโครงการในประเทศ โรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 5 กำลังการผลิต 133 เมกะวัตต์ จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้ กฟผ.ในวันที่ 1 ต.ค.2561 ระยะเวลา 25 ปี ทำให้มีกำลังการผลิตรวม 2,045 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ทั้งหมด 33 แห่ง แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 15 แห่ง โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 15 แห่ง โรงไฟฟ้าพลังน้ำ 2 แห่ง และโรงไฟฟ้าพลังงานดีเซล 1 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศ ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาอีกว่า 1,081 เมกะวัตต์