GPSC ลบ 1.86% เล็งตั้งสำรองฯ 6.8 พันลบ.จากข้อพิพาท Gheco-one

HoonSmart.com>>หุ้น GPSC ลบ 1.86% เล็งตั้งสำรองค่าใช้จ่ายราว 6,829 ล้านบาท จากข้อพิพาทระหว่าง Gheco-one กับผู้ขายถ่านหิน เป็น Downside ต่อกำไรปกติปี 67 ราว -69% คิดเป็นราว 2.4 บาท/หุ้น หรือ -3% ของราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 84 บาท/หุ้น

เมื่อเวลา 11.11 น.หุ้น GPSC ลบ 1.86% มาที่ 52.75 บาท ลดลง 1.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 347.80 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 52.75 บาท ขึ้นสูงสุด 53.00 บาท และต่ำสุด 51.25 บาท

บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า บริษัท เก็คโค่-วัน (Gheco-one) โรงไฟฟ้าถ่านหินกำลังการผลิต 660 MW โดยบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) มีสัดส่วนลงทุนราว 65%) ได้รับข้อเรียกร้องต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการของสหภาพหอการค้านานาชาติ หรือ International Chamber of Commerce หรือ ICC เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 66 โดยผู้เรียกร้อง AVRA International DMCC/ AVRA ซึ่งเป็นคู่สัญญาในการจัดหาถ่านหิน ภายใต้สัญญาซื้อขายและขนส่งถ่านหิน (Coal Supply and Transportation Agreements/ CSTAs) อ้างว่า Gheco-one ผิดสัญญา CSTAs โดยยกเลิกการซื้อถ่านหิน ทำให้ผู้เรียกร้องได้รับความเสียหายจำนวนประมาณ 309 ล้านเหรียญสหรัฐ

ฝ่ายวิจัย มอง Negative ต่อข้อพิพาทระหว่าง Gheco-one กับผู้ขายถ่านหิน แม้ข้อพิพาทยังไม่สิ้นสุด เพราะคาดสร้างความกังวลต่อตลาดในกรณีแย่สุดที่ Gheco-one แพ้คดี/มีความเสี่ยงที่จะแพ้คดีมากขึ้น จนต้องบันทึกค่าใช้จ่ายฯ (cash) หรือตั้งสำรองค่าใช้จ่ายฯ (non-cash) ก่อนภาษีฯ ราว 10,506 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นส่วนของ GPSC ราว 6,829 ล้านบาท จะคิดเป็น downside ต่อกำไรปกติปี 67 (9,849 ล้านบาท) ราว -69% คิดเป็นราว 2.4 บาท/หุ้น หรือ -3% ของราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 84 บาท/หุ้น

อย่างไรก็ดี คงคำแนะนำ”ซื้อ”หุ้น GPSC ระยะสั้นมีแรงกดดันจากความไม่แน่นอน ทั้งนโยบายค่าไฟ (Ft) และภาระการลงทุนในโครงการใหญ่ รวมถึงข้อสรุปของข้อพิพาท CSTAs หากรับความเสี่ยงได้ จึงมองเป็นโอกาสซื้อ คงมุมมองระยะยาวภาครัฐจะปรับ ft ลงช้ากว่าต้นทุนพลังงานเพื่อชดเชยผลขาดทุนให้ EGAT ส่งให้ผู้ขายไฟลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) ได้รับการชดเชยผลกระทบที่แบกรับมาก่อนหน้าด้วย ซึ่ง GPSC ที่มีสัดส่วนการขายไฟ IU มากสุดในกลุ่ม 37-38% และ กลุ่ม 9-28% จะได้ประโยชน์เด่น อีกทั้งคาดต้นทุนพลังงานที่ลดลง ส่งให้แนวโน้มกำไรปี 66-67 ฟื้นตัวต่อเนื่อง และมี upside จากการลงทุนใน AEPL เข้ามาหนุนต่อเนื่องในปี 66-69