BTG กำไรโค้งแรก 393 ลบ. วูบ 80% ราคาหมูร่วง ต้นทุนผลิตพุ่งต่อเนื่อง

HoonSmart.com>> “เบทาโกร” (BTG) เปิดกำไรไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 393 ล้านบาท วูบหนัก 80% จากงวดปีก่อน กำไรขั้นต้น 3,517.0 ล้านบาท ลดลง 25.5% ด้านอัตรากำไรขั้นต้นกลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน ถูกกระทบจากการลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนและเนื้อสุกรผิดกฎหมาย ฉุดราคาสุกรในประเทศลดลง ด้านต้นทุนผลิตสูงขึ้นต่อเนื่อง ด้านรายได้ยังโต 7.6% แตะ 27,960 ล้านบาท

บริษัท เบทาโกร (BTG) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2566 กำไรสุทธิ 392.78 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.20 บาท ลดลง 80.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,970.03 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.31 บาท

บริษัทฯ มีรายได้รวม 27,959.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6% จาก 25,986.2 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2565 โดยรายได้เติบโตจากการขายสินค้าและการให้บริการของทุกกลุ่มธุรกิจ โดยกลุ่มธุรกิจเกษตรมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาขายสินค้าตามการเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ ขณะที่ปริมาณการขายเพิ่มขึ้นเช่นกันตามความต้องการเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการขยายกำลังการผลิตของบริษัทฯ ที่โรงงานอาหารสัตว์ใหม่ในอำเภอจังหวัดนครราชสีมา

กลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน ปริมาณการขายเพิ่มขึ้นตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ มีปริมาณการขายอาหารแปรรูปและเนื้อสัตว์แปรรูปในประเทศกัมพูชาเพิ่มขึ้น ส่วนกลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยงปริมาณการขายและราคาขายอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์มีราคาขายสูงขึ้นตามกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูงมากยิ่งขึ้น

ด้านกําไรขั้นต้นอยู่ที่ 3,517.0 ล้านบาท ลดลง 25.5% จาก 4,718.9 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2565 โดยบริษัทฯ มีอัตรากําไรขั้นต้นอยู่ที่ 12.7% ในไตรมาส 1/2566 ลดลงจาก 18.6% ในไตรมาส 1/2565 การลดลงของกําไรขั้นต้นและอัตรากําไรขั้นต้นดังกล่าว โดยหลักเป็นผลมาจากการลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนและเนื้อสุกรอย่างผิดกฎหมาย ส่งผลให้ราคาสกุรในประเทศปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ต้นทุนการผลิตสุกรยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามราคาอาหารสุกรที่เพิ่มขึ้น

EBITDA ของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ระดับ 1,827.1 ล้านบาท ลดลง 48.45 จาก 3,542.0 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2565 โดยบริษัทฯ มีอัตรา EBITDA อยู่ที่ 6.5% ในไตรมาส 1/2566 ลดลงจาก 13.6% ในไตรมาส 1/2565 โดยหลักเป็นผลจากการลดลงของกําไรขั้นต้นและอัตรากําไรขั้นต้นของกลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนและเนื้อสุกรอย่างผิดกฎหมาย

อย่างไรก็ดีบริษัทฯ สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายและบริหารต่อรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการที่อยู่ระดับ 10.7% ในไตรมาส 1/2566 ลดลงจาก 11.4% ในไตรมาส 1/2565