BJC ตั้ง “ฐาปณี เตชะเจริญวิกุล” นั่ง CEO ส่ง “บิ๊กซี รีเทลฯ” ขาย IPO 3.7 พันล้านหุ้น

HoonSmart.com>> “เบอร์ลี่ ยุคเกอร์” แต่งตั้ง “ฐาปณี เตชะเจริญวิกุล” นั่ง CEO ขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน กางแผน 5 ปี ทุ่มงบลงทุน 6 หมื่นล้านบาท โยก “อัศวิน เตชะเจริญวิกุล” คุมทัพ “บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น” ตามแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ ส่ง “บิ๊กซี รีเทลฯ” เข้าตลาดหุ้น เตรียมขาย IPO กว่า 3.7 พันล้านหุ้น นำเงินขยายธุรกิจ ปรับโครงสร้างทางการเงิน

บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติแต่งตั้งนางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัทฯ ซึ่งการขึ้นดำรงตำแหน่งครั้งนี้นับเป็นการแต่งตั้งผู้บริหารหญิงคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งสูงสุดของ BJC ในรอบ 140 ปี หลังจากที่ได้มีบทบาทสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนธุรกิจของ BJC สู่ความสำเร็จในตำแหน่งกรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโสมาอย่างยาวนาน โดยกำหนดให้มีผลอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย.2566 เป็นต้นไป

ปัจจุบัน นางฐาปณี ดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหาร กรรมการการลงทุน และเลขานุการคณะกรรมการสรรหา กำหนดค่าตอบแทน และกำกับดูแลกิจการ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ รวมทั้งดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ บริษัท ทีซีซี อินเตอร์เทรด จำกัด บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และบริษัท ทีซีซี โฮลดิ้งส์ จำกัด

ขณะเดียวกันนายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ซึ่งเดิมเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ BJC จะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น (BRC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BJC ตามแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ

นางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล กล่าวว่า แผนธุรกิจระยะยาว 5 ปี (2565 – 2569) ของ BJC จะใช้งบลงทุน 60,000 ล้านบาท แบ่งเป็นประมาณ 12,000-14,000 ล้านบาทต่อปี พร้อมวางเป้าหมายเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตลอดจนถึงผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนเพื่อตอบแทนสังคมไทย โดย BJC มีผลงานที่แข็งแกร่งในหลายอุตสาหกรรม รวมถึงมีศักยภาพในการรองรับการ กระจายสินค้าและโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ทั้งในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชีย

ปัจจุบันกลุ่ม BJC มีจุดจำหน่ายสินค้ามากกว่า 236,000 สาขา ทั่วภูมิภาคเอเชีย อาทิ เมียนมา มาเลเซีย เวียดนาม จีน สปป. ลาว และ กัมพูชา เป็นต้น

คณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้อนุมัติแผนการเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น (BRC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (Initial Public Offering (IPO)) เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กำหนดสัดส่วนหุ้นสามัญที่จะเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ไม่เกิน 29.98% ของทุนชำระแล้วทั้งหมดของ BRC หรือจำนวนหุ้น 3,729,999,999 หุ้น

ภายหลังการเพิ่มทุนและเสนอขายหุ้น IPO ซึ่งรวมจำนวนหุ้นสามัญที่จะจัดสรรให้แก่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกิน (Over-Allotment Agent) (หากมี) บริษัทจะยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และมีอำนาจควบคุมของ BRC และ BRC ยังคงมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของบริษัทเช่นเดิม โดยถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 70.02% จากก่อนขาย IPO ถือ 100%

ปัจจุบัน BRC มีทุนจดทะเบียน 87,135,026,800 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 8,713,502,680 หุ้น และมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 87,135,026,800 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจ านวน 8,713,502,680 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท

สำหรับ BRC เป็นบริษัทเรือธง (Flagship Company) ของบริษัทในการดำเนินธุรกิจการค้าปลีก การค้าส่ง การสั่งผลิต การนำเข้าและการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งการพัฒนาและการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ อันมีส่วนเกี่ยวข้องเกื้อหนุนกับการค้าปลีก และ/หรือการค้าส่งของตนเอง

ด้านผลการดำเนินงานในปี 2564-6255 มีรายได้รวม 111,107 ล้านบาทและ 113,573 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ 7,333 ล้านบาท และ 6,757 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับเงินที่ได้จากเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ BRC จะนำเงินไปใช้ลงทุนในการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ใช้ในการปรับโครงสร้างทางการเงินและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของ BRC รวมถึงชำระหนี้บางส่วนของ BRC และใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ทั้งนี้ BRC จะกำหนดรายละเอียดวัตถุประสงค์การใช้เงินไว้ในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนของ BRC ต่อไป