หุ้นเช้านี้ลบ 2.01 จุด งบฯไม่หนุน-กังวลทิศทางศก.

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้ลบ 2.01 จุด แกว่งแคบรอดูดอกเบี้ยสหรัฐ-กังวลทิศทางเศรษฐกิจ โดยตลาดปรับฐานรับคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ย งบฯไตรมาส 4/65 ไม่ช่วยหนุนตลาด ด้านกลยุทธ์มองควรเน้นเล่นสั้น เพิ่มถือเงินสดให้มากขึ้น จนกว่าดัชนีฯ จะกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,677 ได้อีกครั้ง

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 10 ก.พ..2566 ณ เวลา 9.58 น. อยู่ที่ระดับ 1,667.16 จุด ลดลง 2.01 จุด หรือ -0.12% มูลค่าซื้อขาย 2,490.73 ล้านบาท

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) มองดัชนีฯ มีโอกาสปรับตัวลดลง แต่เคลื่อนไหวในกรอบแคบ รอดูดอกเบี้ยสหรัฐฯ และกังวลทิศทางเศรษฐกิจ โดยตลาดหุ้นผ่านการปรับฐานรับคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) (คาดจะ Peak ที่ 5.25%) หลังจาก Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ออกมาพูดเมื่อวันก่อน อย่างไรก็ตามจะได้เห็นการแสดงความคิดเห็นของคณะกรรมการเฟดออกมาเรื่อย ๆ ในช่วงนี้

ตลาดสหรัฐฯ ยังอิงกับการรายงานผลประกอบการที่ออกมา และ Outlook ของธุรกิจบริษัทต่าง ๆ ที่เริ่มออกมามีการปลดพนักงาน ซึ่งอาจจะผลมีต่อหุ้นนั้นๆ

ความกังวล Demand ของจีนเริ่มกลับเข้ามาหลังจากตัวเลขทางเศรษฐกิจไม่ได้ออกมาดี รวมถึงค่าระวางเรือที่สะท้อนถึง Demand การค้าที่ลดลง (ล่าสุด BDI ที่ 592) ซึ่งอาจจะมีผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจจีน ส่งผลมาถึงไทยด้วย แต่ในแง่ของการท่องเที่ยวไทยยังได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวจีนอยู่ ซึ่งสะท้อนผ่านราคาหุ้นไปแล้ว

การรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/65 คาดว่าจะไม่ได้เป็นตัวช่วยตลาดมากนัก หลังจากตัวเลขส่วนมากออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ประเมินกำไรไตรมาส 4 ล่าสุด 2.2 แสนล้านบาท -16% YoY; -1% QoQ

นักลงทุนต่างชาติยังขายหุ้นไทยตลอดทั้งสัปดาห์ วานนี้ Net Sell 3.3 พันล้านบาท

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ คือ ตัวเลขเงินเฟ้อของจีน เดือน ม.ค.

ด้านกลยุทธ์มองการลงทุนยังควรเน้นเล่นสั้น เพิ่มการถือเงินสดในมือให้มากขึ้น จนกว่าดัชนีฯ จะกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,677 จุด ได้อีกครั้ง โดยตลาดหุ้นไทยกลับมาถูกกดันจากหลายปัจจัย ล่าสุด กำไรบริษัทในตลาด หลายตัวต่ำกว่าคาด ภาพรวมตลาดยังอยู่ในโทนลบ นักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นไทยต่อเนื่อง

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
BANPU อยู่ที่ 11.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +4.59% มูลค่าซื้อขาย 406.06 ล้านบาท
MAKRO อยู่ที่ 40.25 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ -3.01 % มูลค่าซื้อขาย 255.80 ล้านบาท
ADVANC อยู่ที่ 202.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ +1.25% มูลค่าซื้อขาย 173.35 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 144.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 105.54 ล้านบาท
CPF อยู่ที่ 23.10 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ -0.43% มูลค่าซื้อขาย 86.39 ล้านบาท