“กองทุนน้ำมัน” ผลตอบแทนสูงสุดปี 65 “หุ้นไทย” รองแชมป์ “เทค”บ๊วย -43.5%

HoonSmart.com>> “มอร์นิ่งสตาร์” เปิดผลตอบแทนกองทุนรวมปี 65 “กองทุนน้ำมัน” สูงสุดเฉลี่ย 14.6% ครองแชมป์ 2 ปีติด ด้าน “กองทุนหุ้นไทย” ชนะหุ้นต่างประเทศ ผลตอบแทนเฉลี่ยติดอันดับสองของอุตสาหกรรมอยู่ที่ 2% เจาะ “กองทุนหุ้นขนาดใหญ่” แจกกำไรสูงสุด 14.16% แย่สุด -7.48% ส่วนกองหุ้นขนาดเล็ก กำไรสูงสุด 11.21% แย่สุด -14.20% ฟาก “กองทุนหุ้นเทคโนโลยี” อ่วมผลตอบแทนติดลบหนักสุด 43.5%

บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยภาพรวมผลตอบแทนของกองทุนรวมในปี 2565 “กองทุนน้ำมัน” เป็นกลุ่มกองทุนที่มี “ผลตอบแทนสะสมสูงสุด” ในปี 2565 ที่ 14.6% หรือสูงสุดเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ส่งผลให้เป็นกลุ่มที่มีผลตอบแทนสูงสุด 10 กลุ่มแรกในรอบ 3-5 ปี แต่ในระยะยาวยังมีผลตอบแทนเฉลี่ยติดลบ ด้านกองทุนทองคำมีผลตอบแทนเฉลี่ยทั้งปีที่ -1.1% จากราคาทองคำที่ปรับลงต่อเนื่องในช่วงที่มีการปรับดอกเบี้ยและเงินดอลลาร์แข็งค่า แต่มีการปรับตัวขึ้นได้ในไตรมาสสุดท้าย สะท้อนไปที่ผลตอบแทนเฉลี่ย 4.8%

กองทุนหุ้นไทยผลตอบแทนดีกว่าหุ้นต่างประเทศมาก

ขณะที่ตลาดหุ้นไทยถือว่าทำได้ค่อนข้างดี จากการเปิดประเทศช่วยกระตุ้นภาคธุรกิจในประเทศ การส่งออก รวมทั้งการปรับดอกเบี้ยที่ไม่มากจากสถานการณ์เงินเฟ้อที่ต่างกัน โดย SET TR ทั้งปี 2565 อยู่ที่ 3.5% ขณะเดียวกันกองทุนหุ้นไทยกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่เฉลี่ยอยู่ที่ 2.0% หรืออันดับ 2 ในอุตสาหกรรม ด้านกองทุนหุ้นขนาดกลาง-เล็ก แม้จะมีผลตอบแทนเฉลี่ยติดลบเล็กน้อยที่ -1.6% แต่ยังถือว่าดีกว่ากลุ่มหุ้นต่างประเทศอย่างมาก


สำหรับกลุ่มกองทุนหุ้นไทยขนาดใหญ่ (Large-Cap) จำนวนทั้งหมด 355 กองทุน พบกองทุนที่ทำผลตอบแทนได้สูงสุดอยู่ที่ 14.6% ขณะที่กองทุนที่มีผลตอบแทนแย่สุด -7.48% ส่วนกลุ่มกองทุนหุ้นขนาดกลางและเล็ก (Small/Mid-Cap) ทั้งหมด 139 กองทุน พบกองทุนที่ทำผลตอบแทนได้สูงสุดที่ 11.21% และแย่สุด -14.20%

กองเทคโนโลยีติดลบมากสุด 43.5%

ด้านกองทุนหุ้นต่างประเทศหลายกลุ่มติดลบค่อนข้างหนัก โดยกลุ่มเทคโนโลยีติดลบมากที่สุดเฉลี่ยที่ -43.5% จากการลงทุนที่มีน้ำหนักในหุ้นสหรัฐที่สูง และเป็นกลุ่มหุ้นเติบโต ทำให้การปรับขึ้นดอกเบี้ยส่งผลต่อมูลค่าหุ้นค่อนข้างมาก รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจในปีนี้ก็ถือเป็นปัจจัยกดดันเช่นกัน ทั้งนี้ในปี 2022 ดัชนี Morningstar Global Technology TR อยู่ที่ -32.2%

แม้กองทุนหุ้นจีนจะมีผลตอบแทนเป็นบวกได้ในไตรมาสสุดท้ายที่เฉลี่ย 5.3% จากมาตรการปิดเมืองที่ค่อย ๆ ผ่อนคลายมาอย่างต่อเนื่อง ที่จะช่วยกระตุ้นภาคการบริโภค รวมทั้งการกระตุ้นภาคอสังหาในประเทศ แต่ในภาพผลตอบแทนเฉลี่ยสะสมทั้งปีของกองทุนกลุ่มนี้ยังติดลบที่ -27.2%

“ตราสารหนี้ในประเทศบวกเล็กน้อย-ต่างประเทศติดลบสูง”

ด้านกองทุนตราสารหนี้ในประเทศในปีที่ผ่านมานี้มีผลตอบแทนติดลบในบางช่วง จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น แต่ฟื้นตัวขึ้นมาได้ในช่วงท้ายปีทำให้รอบ 1 ปีเป็นบวกเล็กน้อยนำโดยกลุ่มตราสารหนี้ระยะสั้น 0.5% ขณะที่ตราสารหนี้ต่างประเทศติดลบค่อนข้างมาก เช่นกลุ่ม Global Bond -11.0% โดยดัชนี Morningstar Global Core Bond Index รอบ 1 ปีอยู่ที่ -17.3%


…………………………………………………………………………………………………….

อ่านข่าวอื่นๆ

กองทุนรวมปี 65 วูบ 4.9 แสนลบ. มูลค่าลดกว่า 9.13% ผลตอบแทนร่วง

10 อันดับกองทุนผลตอบแทนสูงสุดปี 65 “KT-ENERGY” แชมป์ 40.73%