หุ้นเช้านี้บวก 6.47 จุด แกว่งไซด์เวย์ รอดูเลือกตั้ง-เงินเฟ้อสหรัฐ

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้บวก 6.47 จุด แกว่งไซด์เวย์ในกรอบ ในกรอบ 1,615-1,630 จุด ช่วงจับตาเลือกตั้งกลางเทอม-เงินเฟ้อของสหรัฐ ส่วนน้ำหนักตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้อยู่ที่การประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ประกอบกับการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนภาค รวมถึงเริ่มเข้า High Season ของการท่องเที่ยว

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 7 พ.ย.2565 ณ เวลา 10.02 น. อยู่ที่ระดับ 1,632.79 จุด เพิ่มขึ้น 6.47 จุด หรือ +0.40% มูลค่าซื้อขาย 4,836.01 ล้านบาท

บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองตลาดหุ้นวันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์ค่อนไปทางลบในกรอบ 1,615-1,630 จุด นักลงทุนทั่วโลกยังจับตาการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ และตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคของสหรัฐวันพฤหัส ส่วนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับจีน เช่นกลุ่มตัวแทนจำหน่ายมือถือ เรือ เหล็ก รวมถึงหุ้นพลังงานต้นน้ำ วันนี้จะถูกกดดันจากข่าวจีนยังคงนโยบาย Zero Covid

อย่างไรก็ตาม ยังคงมอง SET Index จะปรับตัวลงจำกัดกว่าตลาดหุ้นโลก น้ำหนักของตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้อยู่ที่การประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ประกอบกับทิศทางเศรษฐกิจที่ทยอยเร่งตัวขึ้นทั้งการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนภาค รวมถึงเริ่มเข้า High Season ของการท่องเที่ยว คาดว่ายังหนุนให้กระแสเงินทุนทยอยไหลเข้าตลาดหุ้นไทยในระยะกลาง หุ้น Domestic และ Reopening Play คาดว่ายัง Outperform หุ้น Global Play ได้ต่อเนื่อง ส่วนระยะสั้นเลือกเก็งกำไรงบไตรมาส 3/65 ที่จะออกมาโดดเด่น

Fund Flow วันศุกร์กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เม็ดเงินเพิ่มขึ้นเป็น 305 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยกระจุกที่ไต้หวัน 325 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลเข้ากระจุกที่ไทย 22 ล้านเหรียญสหรัฐ แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลออก รอผลเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐวันอังคารและตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐวันพฤหัส

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTTGC อยู่ที่ 47.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +3.24% % มูลค่าซื้อขาย 399.88 ล้านบาท
PTTEP อยู่ที่ 193.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.52% มูลค่าซื้อขาย 306.91 ล้านบาท
BANPU อยู่ที่ 13.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ +1.55% มูลค่าซื้อขาย 230.33 ล้านบาท
IVL อยู่ที่ 43.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ +1.78% มูลค่าซื้อขาย 227.83 ล้านบาท
TOP อยู่ที่ 58.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +2.62% มูลค่าซื้อขาย 222.55 ล้านบาท