“บล.พาย” คัด 15 หุ้นเสิร์ฟดักฟันด์โฟลว์ ยกหุ้นเด่น KTB-SCB

HoonSmart.com>> “บล.พาย” คาดแนวโน้มหุ้นสัปดาห์นี้ปรับขึ้นในกรอบ 1,585 – 1,625 จุด หลังบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อ่อนตัวลง คาดเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ยน้อยลง เงินบาทมีโอกาสแข็งค่า ฟันด์โฟลว์ไหลกลับ หนุนหุ้นบิ๊กแคป คัด 15 หุ้นแนะนำในกลุ่มค้าปลีก, ท่องเที่ยว, ธนาคาร,โรงไฟฟ้า พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่น KTB-SCB

บทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ พาย (Pi) คาดการณ์สัปดาห์นี้มีความเป็นไปได้ที่ SET INDEX จะปรับเพิ่มขึ้นประเมินกรอบ 1,585 – 1,625 จุด หนุนจากปัจจัยบวกด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 และ 10 ปีที่อ่อนตัวลงในวันศุกร์หลังจากประธาน FED บางสาขาออกมาให้ข้อมูลว่าถึงเวลาแล้วที่ FED จะต้องเริ่มหารือเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่น้อยลง ขณะที่บางท่านให้ความเห็นว่า FED ควรปรับขึ้นดอกเบี้ยไว้บริเวณ 4.5% และปีหน้าควรจะคงไว้ที่ระดับดังกล่าว ซึ่งความเห็นล่าสุดจาก CME FED WATCH เริ่มมีท่าทีที่อ่อนลงโดยการประชุมเดือน ธ.ค. จากเดิมตลาดประเมินไว้ว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ย 0.75% น้ำหนักส่วนมากเริ่มลงมาเหลือเพียง 0.5%

ผลกระทบต่อประเทศไทยเงินบาทมีโอกาสกลับมาแข็งค่าขึ้นบ้างและมีโอกาสที่ Fund Flow ต่างชาติจะไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทย มองหุ้นขนาดใหญ่จะเป็นกลุ่มที่น่าสนใจประกอบไปด้วย ค้าปลีก (BJC , CRC, CPALL, HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, ERW, MINT, SPA) ธนาคาร (BBL, KBANK, SCB, TISCO) โรงไฟฟ้า (BGRIM, GPSC)

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ (1) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ (CB) ในวันอังคาร Bloomberg คาดที่ 105.7 (2) คำสั่งซื้อสินค้าคงทน ในวันพฤหัสบดี Bloomberg คาดที่ 0.6%MoM (3) ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯในวันพุธ Bloomberg คาดที่ 5.79 แสนหลังคาเรือน

ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมามองว่าหากต่ำกว่าคาดการณ์จะดีกับตลาดหุ้นมากกว่า เพราะคลายกังวลกับภาวะเงินเฟ้อและยิ่งสนับสนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับลงต่อเนื่อง

ด้านตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปรับตัวขึ้น 1.3% ตลาดผ่อนคลายกับภาวะดอกเบี้ยของสหรัฐฯหลังรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่ 46.6 ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 49.6 และต่ำกว่าเดือนก่อนที่ 49.3 ขณะที่ภาคผลิตก็ต่ำกว่าตลาดคาด ด้านราคาน้ำมันดิบลดลง 0.3% หลังจีนเปิดเผยการนำเข้าน้ำมันดิบที่ชะลอตัวลง

ส่วนในประเทศเน้นไปที่การประกาศผลประกอบการ 3Q22 หลังกลุ่มธนาคารพาณิชย์ฯรายงานกำไรที่น่าประทับใจก็คาดหวังว่ากลุ่ม Domestic จะรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งเช่นกัน หากเป็นเช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่ปัจจัยด้านผลประกอบการจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้น เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังเน้นหุ้นขนาดใหญ่ อาทิ ธนาคารพาณิชย์ (BBL, KBANK, SCB, TISCO, TTB) ค้าปลีก (BJC, CRC, CPALL, HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, ERW, MINT) สื่อสาร (ADVANC, INTUCH) อสังหา (LH, SPALI)

สำหรับหุ้นเด่น KTB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 20.20 บาท) ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2022-24 ขึ้น 7%/8%/8% เพื่อสะท้อนผลประกอบการที่ดีกว่าคาดในไตรมาส 3/22 ด้วยเหตุนี้จึงประเมินอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิปี 2022 ที่ 53% YoY และด้วยกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น บวกกับดอกเบี้ยขาขึ้น จึงคาดว่ากำไรสุทธิจะโตต่อเนื่อง 8%-11% YoY ในปี 2023-24 ตามลำดับ

หุ้น SCB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 144.00 บาท) บริษัทตั้งเป้า ROE ธุรกิจธนาคารรในหลักสิบต้นสำหรับปี 2025 และเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้บริษัทจะมุ่งเน้นการขยายสินเชื่อดิจิทัล (Gen 2) รวมถึงระบบนิเวศด้านดิจิทัลและสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น (Gen 3) ทั้งนี้ กำไรสุทธิไตรมาส 3/22 ออกมาอยู่ที่ 1.03 หมื่นล้านบาท (+17% YoY, +3% QoQ)