HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดลบ 500 จุด จากเงินเฟ้อสูงกว่าคาด ทำให้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง รวมเดือนก.ย.ดาวโจนส์ดิ่ง 8.8% และไตรมาสที่ 3 ลดลง 6.7% ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น แม้ยังกังวลต่อเงินเฟ้อ แนวโน้มเศรษฐกิจและสถานการณ์พลังงาน ส่วน GDP ไตรมาสสองอังกฤษขยายตัว 0.2% ดีขึ้นจากที่คาดการณ์ครั้งแรกว่าจะหดตัว 0.1%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 30 ก.ย.2565 ปิดที่ 28,725.51 จุด ลดลง 500.10 จุด หรือ 1.71% เป็นการปิดไตรมาสที่สะบักสะบอมจากแรงเทขาย หลังจากเงินเฟ้อสูงกว่าคาด ทำให้นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,585.62 จุด ลดลง 54.85 จุด, -1.51% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดใหม่ของปี 2022
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,575.62 จุด ลดลง 161.89 จุด, -1.51%
ในดือนกันยายนนี้ดาวโจนส์ลดลง 8.8% ดัชนี S&P500 ลดลง 9.3% และดัชนี Nasdaq ลดลง 10.5% ส่วนในไตรมาส 3 นั้น ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 6.7% ดัชนี S&P500 ลดลง 5.3% และดัชนี Nasdaq ลดลง 4.1%
กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 4.9% เมื่อเทียบรายปี และสูงกว่า 4.7% ที่นักวิเคราะห์คาด และเมื่อเทียบรายเดือน เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค. และสูงกว่า 0.5% ที่นักวิเคราะห์คาด
ดัชนี PCE ทั่วไปเพิ่มขึ้น 6.4% เมื่อเทียบรายปีและเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน
ข้อมูล PCE ให้ตลาดคาดว่าเฟดยังคงขึ้นดอกเบี้ยยิ่งเพิ่มความกังวลว่าเศรษฐกิจจะถดถอย ประกอบกับไมครอนเทคโนโลยีเตือนว่าแนวโน้มความต้องการพีซีและสมาร์ทโฟนจะไม่สดใส และประกาศลดการลงทุน อย่างไรก็ตามบริษัทคาดการณ์รายได้จะเติบโตในครึ่งหลังของปี 2023 จากความต้องการที่ฟื้นตัวในช่วงนั้น
นอกจากนี้ไนกี้รายงานสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้น 44% ในไตรมาสล่าสุดและจะลดราคาขายในเทศกาลวันหยุดปลายปี หุ้นไนกี้ลดลง 10%
ขณะเดียวกันนางลาเอล เบรนนาร์ด รองประธานเฟดส่งสัญญาณว่าเฟดยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย เพราะเงินเฟ้อยังสูง โดยกล่าวในการเสวนาว่า นโยบายการเงินยังคงเข้มงวดไปอีกระยะ เพื่อให้มั่นใจว่าเงินเฟ้อกลับสู่กรอบเป้าหมาย และจะเลี่ยงไม่หยุดขึ้นดอกเบี้ยก่อนเวลาอันควร
ก่อนหน้าเมื่อธนาคารกลางอังกฤษประกาศซื้อพันธบัตร นักลงทุนคาดว่าเฟดจะทำในลักษณะเดียวกันและผ่อนคลายการขึ้นดอกเบี้ย โดยมองว่ามีความน่าจะเป็น 50% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน แต่เมื่อวานนี้ความน่าจะเป็นลดลงมาที่ 40% หลังเจ้าหน้าที่เฟดแสดงความเห็นที่ยังแข็งกร้าวในการขึ้นดอกเบี้ยและจากการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงต่ำสุดในรอบ 5 เดือน
นักลงทุนจับตาการรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะเติบโตในอัตราชะลอตัว และต่ำสุดในรอบ 2 ปี โดยเพิ่มขึ้น 2.9%
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่เป็นไตรมาสที่สาหัสเช่นกัน หุ้นกลุ่มก่อสร้างเพิ่มขึ้น 2.5% กลุ่มสื่อเพิ่มขึ้น 2.3% ขณะที่นักลงทุนยังกังวลต่อเงินเฟ้อ แนวโน้มเศรษฐกิจและสถานการณ์พลังงาน
สำนักงานสถิติยูโรรายงานเงินเฟ้อเดือนกันยายนว่าสูงถึง 10% เพิ่มขึ้นจาก 9.1% ในเดือนก่อนและสูงกว่า 9.7% ที่นักวิเคราะห์คาด และเพิ่มกระจายไปหลายหมวดจากอาหารและพลังงาน ซึ่งตลาดคาดว่าจะกดดันให้ธนาคารกลางสหภาพยุโรปขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนตุลาคม
GDP ไตรมาสสองอังกฤษขยายตัว 0.2% ดีขึ้นจากที่คาดการณ์ครั้งแรกว่าจะหดตัว 0.1% อย่างไรก็ตามก็ยังต่ำกว่าระดับก่อนโควิด ด้านเงินปอนด์ฟื้นตัวมาที่ระดับสูงสุดของสัปดาห์ 1.12 ต่อดอลลาร์ก่อนที่จะอ่อนตัวลงเล็กน้อย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 387.85 จุด เพิ่มขึ้น 4.96 จุด, +1.30%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,893.81 จุด เพิ่มขึ้น 12.22 จุด, +0.18%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,762.34 จุด เพิ่มขึ้น 85.47 จุด, +1.51%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,114.36 จุด เพิ่มขึ้น 138.81 จุด, +1.16%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.74 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 79.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 53 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 87.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล