“ฟินโนมีนา” รุกเพิ่มที่ปรึกษาการลงทุนอิสระ ตั้งเป้าแตะ 1 หมื่นรายปี 68

HoonSmart.com>> “ฟินโนมีนา” เดินหน้าเพิ่มที่ปรึกษาการลงทุนอิสระ จากปัจจุบันมีจำนวน 1,700 ราย ดูแลพอร์ตลูกค้ากว่า 12,000 ล้านบาท จากมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้ทั้งหมด คาดสิ้นปีจำนวนที่ปรึกษาการลงทุนอิสระอยู่ที่ 2,000 ราย พร้อมวางเป้า 3 ปี แตะ 1 หมื่นราย ด้านมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้บริหารปัจจุบัน 30,000 กว่าล้านบาท

ดร. เมธี จันทวิมล

ดร.เมธี จันทวิมล Managing Partner บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน (บลน.) ฟินโนมีนา จำกัด (FINNOMENA) บริษัทเดินหน้าขยายฐานที่ปรึกษาการลงทุนอิสระอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1,700 ราย ตั้งเป้าหมายสิ้นปีนี้แตะ 2,000 ราย จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1,700 ราย พร้อมวางเป้าหมาย 3 ปี หรือปี 2568 แตะ 10,000 ราย จากปัจจุบันเป็นบริษัทเดียวที่มีการลงทะเบียนเป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ

ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 ก.ย.2565 FINNOMENA ได้จัดงาน FINNOMENA FA Summit 2022 “Conquer the Leading Edge” เปิดประตูสู่การเป็น “ที่ปรึกษาการลงทุนแห่งอนาคต” เปิดรับผู้ที่สนใจในอาชีพเข้ามาร่วมงาน

ปัจจุบัน FINNOMENA มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUA) รวมทั้งสิ้น 30,000 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วน 40% เป็นมูลค่าสินทรัพย์ที่ที่ปรึกษาทางการลงทุน (FA) ดูแลอยู่ 12,000 ล้านบาท ครอบคลุมลูกค้ากระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งมีทั้ง FA ที่มาจากตัวแทนประกันที่มีใบอนุญาตแนะนำการลงทุน รวมถึงพนักงานประจำที่เข้ามาเป็น FA

“ภาพรวม AUA สิ้นปี 2565 คาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นแตะ 40,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมีฐานลูกค้า 200,000 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีที่ Active ประมาณ 50% โดยจำนวนลูกค้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง ช่วง 2 ปีทีผ่านมาโดยเฉพาะช่วงโควิด-19 พอร์ตลูกค้าเติบโตค่อนข้างสูง” ดร.เมธี กล่าว

ดร.เมธี กล่าวว่า สำหรับในช่วงที่เหลือของปีนี้ FINNOMENA แนะนำจัดพอร์ตกองทุนประหยัดภาษีทั้งกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ซึ่งมีพอร์ตแนะนำ 7 Series ตั้งแต่เสี่ยงต่ำไปยังเสี่ยงสูง พร้อมแนะนำให้นักลงทุนดูพอร์ตของตัวเองว่าเป็นไปตามเป้าหมายหรือนั้นหรืออาจปรับพอร์ตและนำเงินมาลงทุนในกองทุนประหยัดภาษีกองใหม่ก็ได้

“ตลาดผันผวนหากนักลงทุนยังไม่แน่ใจที่จะลงทุน 100% อาจเลือกลงทุนกองทุนผสมที่มีการจัดพอร์ตกระจายการลงทุน หรืออาจเลือกลงทุนในกองทุนประหยัดภาษีที่มีความเสี่ยงต่ำที่ลงทุนในมันนี่ มาร์เก็ตไปก่อนเพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ทางภาษี แล้วค่อยโยกไปลงทุนในกองทุนประเภทอื่น ขณะที่หุ้นไทย Upside น้อยเมื่อเทียบตลาดหุ้นอื่นๆ โดยยังคงแนะนำกองทุนหุ้นเวียดนาม”ดร.เมธี กล่าว

นอกจากนี้ บริษัท ฟินท์ โทเคนส์ จำกัด ผู้ออกเหรียญ FINT บริษัทในเครือของกลุ่ม FINNOMENA อยู่ระหว่างขอใบอนุญาตกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการนำเหรียญ FINT เข้ากระดานเอ็กซ์เชนจ์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างหาพันธมิตรเอ็กซ์เชนจ์ในการให้บริการซื้อ-ขายเหรียญบนกระดานแลกเปลี่ยน คาดว่าภายในปี 2566 จะมีความชัดเจนมากขึ้น

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทได้ออกเหรียญ FINT แล้วจำนวน 300 ล้านเหรียญ ให้ลูกค้าที่เข้ามาซื้อกองทุนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ถือเหรียญที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท

อ่านข่าว

ฟินโนมีนาจัดงานใหญ่ “เปิดประตูสู่การเป็นที่ปรึกษาการลงทุนแห่งอนาคต”