“กองทุนหุ้นจีน” เริ่มฟื้น Q2/65 กำไร – “หุ้นเทค” ยังอ่วมครึ่งปีติดลบ 38%

HoonSmart.com>> “มอร์นิ่งสตาร์” เผยกองทุนหุ้นต่างประเทศครึ่งปีแรก มูลค่าลดลง 19.7% จากสิ้นปีก่อน เงินไหลออกสุทธิมากในไตรมาส 2/65 กว่า 1.7 หมื่นล้านบาท หลังเงินเฟ้อพุ่งทั่วโลก สงครามยืดเยื้อ เฟดขึ้นดอกเบี้ยฉุดผลตอบแทนติดลบถ้วนหน้า ด้าน “กองทุนหุ้นโลก-จีน-เวียดนาม” เงินยังไหลเข้า ฟาก “กองหุ้นจีน” กลับมาได้รับความสนใจหลังเปิดเมือง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหนุนผลตอบแทนไตรมาส 2/65 พลิกบวกเฉลี่ย 3.23% จากติดลบสูงสุดในไตรมาสแรกกว่า 15% ด้าน “กองทุนหุ้นเทค” ยังอ่วมครึ่งปีผลตอบแทนติดลบ 38% ฉุดมูลค่าทรัพย์สินวูบ

น.ส.ชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า กองทุนรวมต่างประเทศ (ไม่รวม Term Fund) ในไตรมาส 2/2565 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 9.5 แสนล้านบาท ลดลง 19.7% จากสิ้นปี 2564 หรือลดลง 12.3% จากไตรมาสแรก โดยมีเงินไหลออกสุทธิ 1.7 หมื่นล้านบาท รวมครึ่งปีแรกเงินไหลออกสุทธิ 1.7 หมื่นล้านบาท (ไตรมาสแรกมีเงินไหลออกสุทธิระดับร้อยล้านบาท)

กลุ่มกองทุนตราสารทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 7.1 แสนล้านบาท ลดลง 18.3% จากสิ้นปีที่แล้ว ในไตรมาสที่ผ่านมามีเงินไหลเข้าสุทธิ 3.9 พันล้านบาท สะสมครึ่งปี 3.0 หมื่นล้านบาท ทำให้เป็นเพียงกองทุนประเภทเดียวที่มีเงินไหลเข้าสุทธิในช่วงครึ่งปีแรก ทางด้านกองทุนตราสารหนี้ยังคงมีแรงขายอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาสล่าสุดมีเงินไหลออกสุทธิ 6.4 พันล้านบาท รวมรอบ 6 เดือน 2.1 หมื่นล้านบาท มูลค่าทรัพย์สินสุทธิลดลงมาที่ 6.5 หมื่นล้านบาท

หลังจากที่จีนจบมาตรการปิดเมืองเวลา 2 เดือน พร้อมกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐทำให้นักลงทุนกลับมาสนใจตลาดหุ้นจีนอีกครั้ง โดยดัชนี CSI 300 มีการฟื้นตัวมาได้อย่างชัดเจนตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย.เป็นต้นมา ด้านกองทุนหุ้นจีนกลับมาได้รับความสนใจมากขึ้นกว่าไตรมาสแรก โดยเป็นกลุ่มที่มีเงินไหลเข้าสูงสุด 6.4 พันล้านบาท รวมสะสม 6 เดือนมีเงินไหลเข้าสูงสุดเป็นอันดับที่สอง 1.2 หมื่นล้านบาท

กองทุนหุ้นทั่วโลกยังมีเงินไหลเข้าแต่น้อยที่สุดในรอบ 2 ปี

ผลตอบแทนจากการลงทุนหุ้นทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมาติดลบไปค่อนข้างมาก โดย Morningstar Global Markets Index รอบ 6 เดือน ปรับตัวลง 20.2% ทางด้านกองทุนหุ้นทั่วโลกหรือ Global equity มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิลดลง 23.4% จากสิ้นปีที่แล้วมาอยู่ที่เกือบ 1.7 แสนล้านบาท ผลตอบแทนเฉลี่ย 6 เดือนอยู่ที่ -28.6% และแม้จะยังมีเงินไหลเข้าสุทธิอย่างต่อเนื่องแต่เป็นมูลค่าที่น้อยลงอย่างมีนัยสำคัญที่ 1.1 พันล้านบาท ถือเป็นไตรมาสที่มีเงินไหลเข้าน้อยที่สุดในรอบ 2 ปี รวมเงินไหลเข้าสุทธิสะสมครึ่งปีแรก 1.3 หมื่นล้านบาท

ด้านผลตอบแทนติดลบทำให้กลุ่มเทคโนโลยีหลุดออกจาก 5 อันดับแรก

จากในไตรมาสที่แล้วกองทุนกลุ่ม Global Technology เป็นกลุ่มที่อยู่ในอันดับ 5 ของกลุ่มกองทุนต่างประเทศขนาดใหญ่ที่สุด แต่ด้วยในช่วงปีนี้กลุ่มเทคโนโลยีที่เป็นกลุ่มหุ้นเติบโตมีการปรับตัวลงอย่างมาก โดย Morningstar Global Technology Index รอบ 6 เดือนอยู่ที่ -30.6% หรือต่ำสุดเมื่อเทียบกับอีก 10 กลุ่มอุตสาหกรรม ทำให้ผลตอบแทนจากกองทุน Global Technology เป็นกลุ่มที่มีผลตอบแทนติดลบมากที่สุดในรอบครึ่งปีแรกเช่นกัน โดยอยู่ที่ -37.9% ประกอบกับเริ่มมีเงินไหลออกสุทธิในไตรมาสนี้ 1.7 พันล้านบาท ทำให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิลดลง 33.2% ไปอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท

กลุ่มกองทุนหุ้นเวียดนามยังคงติดอันดับเงินไหลเข้าสูงสุดในรอบไตรมาสที่ผ่านมา

ในช่วงต้นไตรมาสที่ผ่านมาดัชนี VN Index มีการปรับตัวลงค่อนข้างเร็วทำให้เม็ดเงินลงทุนในกองทุนหุ้นเวียดนามชะลอลงที่ระดับ 6 ร้อยล้านบาท แต่หากมองในแง่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจก็ยังทำให้เวียดนามเป็นหนึ่งตลาดที่มีความน่าสนใจในระยะยาว ทำให้มีเงินไหลเข้ากองทุนเวียดนามมากขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน รวมเงินไหลเข้าสุทธิไตรมาสนี้ 3.3 พันล้านบาท และรอบครึ่งปี 1.0 หมื่นล้านบาท

ผลตอบแทนกองทุนหุ้นจีนสูงสุดในกลุ่มตราสารทุน

จากไตรมาส 1/2565 กองทุนหุ้นจีนมีผลตอบแทนเฉลี่ยต่ำสุดที่ -15.5% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมากลุ่มกองทุนหุ้นจีนเป็นกลุ่มที่มีผลตอบแทนเฉลี่ยสูงเป็นอันดับที่ 2 ของอุตสาหกรรม จากการเปิดคลายล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้เมื่อเดือนมิถุนายนและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาสนับสนุนภาคธุรกิจและการขนส่งที่หุ้นจีนขนาดใหญ่อย่างกลุ่ม internet หรือ e-commerce ได้ประโยชน์ไปด้วย

กลุ่มหุ้น internet-Tech ฟื้นตัวได้ดี ขณะที่ A-shares ติดลบน้อยกว่า

เมื่อไปดูที่การลงทุนของแต่ละกองทุนนั้นจะพบว่ากองทุนที่มีการฟื้นตัวได้สูงสุดในรอบ 3 เดือนคือการลงทุนในกองทุน ETF หุ้นจีน (US Fund China Region) เช่น กองทุน Invesco China Technology (CQQQ), Global X MSCI China Consumer Disc ETF (CHIQ) กองทุนเหล่านี้ลงทุนกลุ่มหุ้น internet หรือกลุ่มเทคโนโลยีที่ฟื้นตัวมาได้ค่อนข้างดีตั้งแต่ช่วงกลางไตรมาสเป็นต้นมา ด้านกองทุนหุ้น A-Shares นั้นมักจะมีสัดส่วนในกลุ่มหุ้นอุตสาหกรรม กลุ่มการเงิน หรือกลุ่มการบริโภคเป็นสัดส่วนหลัก แม้จะมีผลตอบแทนรอบ 3 เดือนทีผ่านมาไม่มากนัก แต่ในภาพของผลตอบแทน 1 ปียังติดลบน้อยกว่ากลุ่มอื่น ๆ

กองทุนหุ้นเทคโนโลยีถูกกดดันจากกลุ่มคริปโต

กลุ่มกองทุนหุ้นเทคโนโลยีเป็นกลุ่มที่มีผลตอบแทนต่ำที่สุดทั้งรอบ 3 เดือนและรอบ 1 ปี หรือเฉลี่ยที่ -27.7% และ -36.8% ตามลำดับ โดยในไตรมาสที่ผ่านมากองทุนที่ลงทุนเกี่ยวกับ blockchain มีผลตอบแทนที่ติดลบไปมากจากตลาดคริปโตที่มีการปรับตัวลงแรง ขณะที่กองทุนที่ลงทุนใน ARK Next Generation Internet หรือ ARKW มีผลตอบแทนติดลบมากเป็นอันดับต้น ๆ ในรอบครึ่งปีแรกซึ่งได้รับผลจากตลาดคริปโตด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้กองทุน ARKW มีการลงทุนใน Block Inc (SQ), Grayscale Bitcoin Trust (GBTC) และ Coinbase (COIN) รวมกันมากกว่า 16% เมื่อสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันกองทุนอื่นจาก ARK ยังมีผลตอบแทนติดลบอยู่ทั้งหมด โดยกองทุน ARKQ หรือ ARK Autonomous Technology & Robotics เป็นกองทุนที่ติดลบน้อยที่สุดในรอบ 3 เดือนที่ -25.8%

ปัจจุบันกองทุนรวมไทยที่ลงทุนในกองทุนจากบลจ. ARK มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม 8.9 พันล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2564 ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท และเคยอยู่ในระดับสูงสุดที่มูลค่ารวม 3.0 หมื่นล้านบาทเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2564 (นับเฉพาะมูลค่ากองทุนฟีดเดอร์)

สำหรับผลตอบแทนของกองทุนรวมในไตรมาส 2/2565 กองทุนน้ำมันยังคงให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุด 7.50% ต่อปี ขณะที่กองทุน Global Technology ติดลบสูงสุด 27.71% ต่อปีและครึ่งปีแรกติดลบสูงสุดเช่นกัน 37.85% โดยกองทุนน้ำมันผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุด 37.04% ต่อปี

กองทุนรวม Q2/65 เงินไหลออก 1.2 แสนลบ. ซื้อ “กองหุ้นไทย” รอบ 2 ปีรับเปิดเมือง