HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นไทยไตรมาส 2/65 ร่วงลง 126.91 จุดหรือ -7.49% รวม 6 เดือน -5.39% นักลงทุนต่างชาติซื้อมากถึง 1.12 แสนล้านบาท วันที่ 30 มิ.ย. ลงหนัก 17.85 จุด ตื่นตระหนกกลัวขึ้นดอกเบี้ย หลังธปท.จะแถลงข่าวเย็นนี้ ตลาดต่างประเทศแดงเถือกยกเว้นจีน ยุโรปดิ่งเกิน 2% ดาวโจนส์ล่วงหน้าร่วงกว่า 1% หลังประธานเฟดเน้นขึ้นดอกเบี้ยกดเงินเฟ้อ ยอมเศรษฐกิจถดถอย พรุ่งนี้ให้แนวรับ 1,560-1,550 แนวต้าน 1,580 จุด

ตลาดหุ้นไทยวันที่ 30 มิ.ย.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,568.33 จุด ทำให้ผลตอบแทนในไตรมาส 2/65 ลดลง 126.91 จุด คิดเป็น -7.49% เทียบกับดัชนีปิดที่ 1,695.24 จุด เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยรวม 6 เดือนแรกปีนี้ ให้ผลตอบแทนติดลบ 89.29 จุดคิดเป็น -5.39% จากสิ้นปี 2564 ปิดที่ระดับ 1,657.62 จุด แม้ได้แรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติมากถึง 112,629.42 ล้านบาท แต่เจอแรงขายของนักลงทุนสถาบันไทย -88,974.60 ล้านบาท และนักลงทุนไทยร่วมขาย -25,098.38 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงน้อยกว่าตลาดหุ้นต่างประเทศหลายแห่ง เนื่องจากผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนไทยแข็งแกรง มีกำไรสุทธิรวม 246,852 ล้านบาท ลดลง 1.7% แม้บจ.มีต้นทุนสูงตามราคาพลังงาน และได้รับผลกระทบจากธุรกิจประกันภัยที่มีการเครมประกันโควิดสูง จนทำให้บริษัทประสบปัญหาขาดทุนก็ตาม หากไม่รวมธุรกิจประกันภัย บจ.จะมีกำไรสุทธิ 275,474 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.1% คาดแนวโน้มกำไรบจ.จะลดลง และนักวิเคราะห์มีโอกาสปรับลดประมาณการกำไรทั้งปีนี้รวมถึงราคาเป้าหมายของหุ้นด้วย
ด้านตลาดหุ้นวันสุดท้ายของไตรมาสที่ 2/2565 ดัชนีทรุดลง 17.85 จุด หรือ -1.13% มูลค่าซื้อขาย 71,991.49 ล้านบาท เกิดจากนักลงทุนต่างประเทศพลิกกลับมาขายสุทธิ 1,369.02 ล้านบาท สถาบันไทยขาย 583.92 ล้านบาท ด้านนักลงทุนไทยซื้อสุทธิ 2,148.17 ล้านบาท
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่า ตลาดหุ้นในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลงค่อนข้างมาก ตื่นตระหนก (Panic) จากเรื่องที่แบงก์ชาติจะแถลง”การปรับทิศทางการดำเนินมาตรการทางการเงินภายใต้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง”ในช่วงเย็นวันนี้ ซึ่งปกติแบงก์ชาติไม่เคยนัดแถลงแบบนี้ ทำให้คนสงสัยและมองในเชิง Negative ก่อน อาจเป็นเรื่องทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ได้ หรือแค่แถลงรอบครึ่งปีก็ได้ ตรงนี้ไม่มีใครรู้
นอกจากนี้ ตลาดต่างประเทศต่างก็ปรับตัวลงกันด้วย ทั้งตลาดในภูมิภาคเอเชีย ยกเว้นตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวขึ้นหลัง PMI ภาคการผลิตออกมาดีขึ้นจากผ่อนคลายล็อกดาวน์ และตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ต่างก็ปรับตัวลง หลังจากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังเน้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อกดให้เงินเฟ้อลง แม้เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ทำให้ตลาดมองว่าเฟดคงจะใช้ยาแรงเพิ่ม อีกทั้งจะเข้าสู่เดือนก.ค.แล้วก็จะมีการประกาศ GDP ทั้งของจีน และสหรัฐฯ ถ้าออกมาหดตัวก็จะทำให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนอาจจะไม่ดีไปด้วย นักลงทุนจึงเลือกที่จะขายก่อน
สำหรับตลาดหุ้นไทย เริ่มจะเข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2565 และการพรีวิวิผลประกอบการ ส่วนใหญ่ก็จะถูกปรับลดประมาณการ จากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็ปรับตัวขึ้นด้วย ส่งผลให้ต้นทุนของบริษัทสูงขึ้น ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย ก็จะเลือกขายทำกำไรออกมาก่อน
พร้อมกันนี้ให้ติดตามการแถลงของแบงก์ชาติในช่วงเย็นนี้ และการพรีวิวผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะออกมาเรื่อย ๆ รวมถึงดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ค.ของสหรัฐฯที่จะออกมาในคืนนี้
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 1 ก.ค..2565 ตลาดฯคงจะปรับตัวลงสลับรีบาวด์ขึ้น เนื่องจากโมเมนตัมยังเป็นลบอยู่ พร้อมให้แนวรับ 1,560-1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580 จุด
