ASP สะกิดหุ้นแรงเกินจริง เผย 6 ครั้งก่อนเลือกตั้ง ขึ้นแค่ 0.84%

บล.เอเซียพลัสโชว์สถิติ 6 เดือนก่อนวันเลือกตั้ง 6 ครั้งที่ผ่านมา ดัชนีบวก 4 ครั้ง ลบ 2 ครั้ง รวมเฉลี่ย 0.84% เม็ดเงินต่างชาติเข้ามาไม่มาก เฉลี่ย 2,600 ล้านบาท/ครั้ง จากการซื้อสุทธิ 2 ครั้ง เตือนราคาหุ้นใหญ่หลายบริษัทมาไกลมาก ระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้น แนะ 3 กลยุทธ์เลือกหุ้น

บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส (ASP) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นเมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นปรับตัวขึ้น 38 จุดหรือ 2.30% สูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี วอลุ่มเกือบ 8 หมื่นล้านบาท ฝ่ายวิจัยมองว่า ตลาดหุ้นตอบรับประเด็นการเลือกตั้งเร็วและแรงเกินไป เนื่องจากสถิติย้อนหลังช่วง 6 เดือนก่อนมีการเลือกตั้ง มีการสำรวจข้อมูลมา 6 ครั้งหลังสุด พบว่าดัชนีหุ้นปรับตัวขึ้นเฉลี่ยเพียง 0.84% เท่านั้น โดยให้ผลตอบแทนเป็นบวก 4 ใน 6 ครั้ง


ขณะที่ในช่วงเดียวกัน นักลงทุนต่างชาติมีเงินไหลเข้าตลาดหุ้นไทยในระดับที่ไม่สูงมาก มียอดซื้อสุทธิเฉลี่ยเพียง 2.6 พันล้านบาทต่อครั้ง ในช่วง 6 เดือนก่อนเลือกตั้ง และเป็นการซื้อสุทธิ 2 ใน 6 ครั้ง

จากการวิเคราะห์เชิงปริมาณ และจากข้อมูลสถิติย้อนหลังดังกล่าว ฝ่ายวิจัยฯเชื่อว่า ตลาดคาดหวังประเด็นเลือกตั้ง รวมถึงโอกาสที่เงินทุนจะไหลกลับเข้ามาหนุนดัชนีหุ้นมากเกินไป ขณะที่เมื่อไปดูพรรคการเมือง ก็ยังไม่สามารถดำเนินการใดๆ ที่จะหาเสียงในการเลือกตั้งได้ จนกว่าจะเป็นช่วงหลังจากวันที่ 11 ธ.ค.2561 แล้ว

นอกจากนั้นปัจจุบันยังพบว่าราคาหุ้นขนาดใหญ่หลายบริษัท ปรับตัวขึ้นแรงจนมี upside จำกัดแล้ว จึงต้องระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นที่อาจมีออกมา ซึ่งในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ นักลงทุนควรต้องพิถีพิถันในการเลือกหุ้น (Selective Buy) เพื่อลดความเสี่ยง

ฝ่ายวิจัยฯ แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ เลือกหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง, ราคายัง Laggard ได้แก่ BANPU ให้ราคาเป้าหมาย 25.60 บาท , CENTEL มูลค่า 56 บาท, BGRIM ราคา 32 บาท , LPN มูลค่า 13.50 และ TFG นักวิเคราะห์ ASP เพิ่งปรับเพิ่มมูลค่าเหมาะสมเป็น 5 บาท จากการส่งออกไก่ดีขึ้น

บล.เอเซียพลัสแนะนำเลือกหุ้นรับเหมาก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากจะตอบรับ Sentiment การเลือกตั้ง ได้แก่ CK มูลค่า 32 บาท , SEAFCO ราคา 11 บาท , SCC ราคา 530 บาท และ SCCC มูลค่า 258 บาท

รวมถึงการเลือกหุ้น Domestic ที่เกาะกระแสการเมืองในประเทศ ได้แก่ ADVANC มูลค่า 230 บาท , BJC ราคา 69 บาท และเก็งกำไรหุ้น CPALL มูลค่า 79 บาท หลังราคาปรับฐานแรงจนมี upside สูง รวมถึงสื่อโฆษณาที่มีโอกาสปรับขึ้น MACO มูลค่า 2.36 บาท

ทั้งนี้พัฒนาทางบวกของการเมืองไทย เห็นภาพการเลือกตั้งชัดเจนขึ้น หลังพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาสว.มีผลบังคับใช้วันที่ 13 ก.ย.2561 ส่วนพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. จะมีผลบังคับใช้อีก 90 วัน ก็คือราววันที่ 11 ธ.ค.2561