HoonSmart.com>>”บล.คิงส์ฟอร์ด” คาดตลาดหุ้นภาคบ่ายยังถูกกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ วางแนวรับแรก 1,660 จุด ยืนไม่อยู่ถัดไป 1,655 จุด ส่วนแนวต้าน 1,665 จุด หลังปิดตลาดช่วงเช้าดัชนีลบ 7 จุด ทิศทางเดียวกับทั่วโลก กังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย เริ่มลดงบดุล ด้านรัสเซียจะหยุดจ่ายก๊าซให้โปแลนด์, บัลแกเรีย ด้านตลาดเอเชีย ติดตามจีนเพิ่มพื้นที่ล็อกดาวน์
บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มตลาดหุ้นภาคบ่ายวางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,655 – 1,660 จุด แนวต้าน 1,665 – 1,670 จุด หลังปิดเช้าปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มปิโตรเคมี -2.79% ปรับลดลงตามสเปรดผลิตภัณฑ์ และรัสเซียหยุดจ่ายก๊าซในยุโรปอาจส่งผลกระทบต่อโรงงานปิโตร ฯ ในยุโรป ขณะที่กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ -1.49% จากความกังวลปัญหาขาดแคลนชิปและอุปกรณ์ในช่วงล็อกดาวน์ของจีน
ส่วนรายงานทางเศรษฐกิจ สศค. ปรับลด GDP ไทยปีนี้ลงอยู่ที่ 3.50% จากเดิมคาดที่ 4% และเงินเฟ้อคาดที่ 5 % จากผลกระทบวิกฤตยูเครน
ช่วงเช้า SET Index ปิด -7.10 จุด ที่ระดับ 1,661.87 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.0 หมื่น ลบ. เช่นเดียวกับ MSCI Asia Pacific X.Japan -1.10% กังวลต่อนโยบายการเงินของเฟดจะเร่งปรับขึนดอกเบี้ยและเริ่มลดงบดุลในการประชุม 3 – 4 พ.ค. เพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อสูง ขณะที่รัสเซียจะหยุดจ่ายก๊าซให้กับโปแลนด์, บัลแกเรีย ที่ต้องจ่ายค่าก๊าซเป็นเงินรูเบิลเท่านั้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันเช้านี้ WTI Futures +0.18% อยู่ที่ 101.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
กอปรกับ รมว.ต่างประเทศรัสเซียเตือนความเสี่ยงจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ ส่งผลให้นักลงทุนชะลอการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และกลับมาถือดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ Dollar Index แข็งค่าอยู่ที่ระดับ 102.34 และถือพันธบัตรสหรัฐ ส่งผลให้ US Bond Yield 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 2.77%
ฝั่งเอเชียต้องติดตาม มาตรการล็อกดาวน์จีนที่ต้องเพิ่มพื้นที่ควบคุมในกรุงปักกิ่ง อาจส่งผลให้เศรษฐกิจเอเชียมีความเสี่ยงเกิดภาวะ Stagflation ตามคำเตือนของ IMF ค่ำวันนี้ติดตาม EIA จะรายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ททีผ่านมาคาดเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล
อ่านข่าว