‘สมาคมบริษัทจัดการลงทุน’ จี้ TU แจงแนวทางดำเนินการ CG หลังอินไซด์ซื้อหุ้น

HoonSmart.com>> “สมาคมบริษัทจัดการลงทุน” ร่อนหนังสือถึง “ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป” ชี้แจงแนวทางดำเนินการตามหลักธรรมาภิบาล (Corporate Governance) มาตรการแก้ไขและปัองกันเหตุการณ์ หลังก.ล.ต.ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งผู้กระทำความผิด 9 ราย ที่เป็นกรรมการหรือผู้บริหาร กรณีซื้อหุ้น TU โดยอาศัยข้อมูลภายใน

วรวรรณ ธาราภูมิ

สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) ส่งหนังสือเปิดผนึกลงนามโดยนางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานคณะอนุกรรมการนโยบาย ESG Policy & Collective Action และประธานกรรมการกิตติมศักด์ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน ถึง นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) ว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 9 รายในกรณีซื้อหุ้น TU โดยใช้ข้อมูลวงใน หรือเปิดเผยข้อมูลวงใน หรือสนับสนุนการกระทำความผิดแก่บุคคลอื่น และสำนักงาน ก.ล.ต. ได้เรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่งพร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามบุคคลทั้ง 9 รายเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร ความทราบแล้วนั้น

สมาคมบริษัทจัดการลงทุน โดยคณะอนุกรรมการนโยบาย ESG Policy & Collective Action Committee ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการกองทุน ได้ติดตามประเด็นดังกล่าวด้วยความกังวลเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีผลกระทบต่อความโปร่งใสและธรรมาภิบาลในการประกอบธุรกิจของ TU ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในเรื่องของ ESG โดยสมาคมฯ หวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการและผู้บริหารทั้ง 9 ราย ตามที่ ก.ล.ต. กำหนดโทษ เพื่อมิให้ TU ได้รับผลกระทบจากความเชื่อมั่นในการลงทุน

อย่างไรก็ดี ปรากฏว่าหลังจากการประชุม AGM ของ TU ครั้งล่าสุดนี้ ทางบริษัทยังมิได้มีการเปลี่ยนแปลงกรรมการหรือผู้บริหารที่ถูกกล่าวโทษแต่ประการใด สมาคมฯ จึงขอรับทราบว่า TU จะมีการสนองตอบต่อการกล่าวโทษของสำนักงาน ก.ล.ต. อย่างไร และหากจะยอมรับโทษ จะมีกำหนดเวลาเปลี่ยนแปลงกรรมการและผู้บริหารที่ถูกกล่าวโทษเมื่อใด

ทั้งนี้ สมาคมฯ ยังเชื่อมั่นว่า TU จะยังคงความเป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาล พร้อมจะแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดไปโดยเร็ว เพื่อรักษาบรรทัดฐานที่ดีและให้ผู้ลงทุนทั้งหลายยังคงรักษาความเชื่อมั่นในตัวบริษัทได้อย่างที่เคยเป็น


อ่านข่าว

ก.ล.ต.สั่งปรับ 9 ราย อินไซด์ฯหุ้น TU รวม 13 ล้านบ.