ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง เตรียมเสนอขายไอพีโอ 122.28 ล้านหุ้น ระดมเงินขยายการลงทุนโครงการรับเหมาก่อสร้างภาครัฐ-เอกชน เตรียมลงสนามเทรดในตลาด mai ปลายปีนี้
นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม สายงานวาณิชธนกิจ – ด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เคทีบี (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินบริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง (TIGER) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบไฟลิ่ง TIGER เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2561 โดยบริษัทฯ มีแผนเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 122.28 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นสัดส่วน 26.58% ของทุนจดทะเบียนหลังไอพีโอ คาดว่าจะเสนอขายหุ้นและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในปลายปี 2561
TIGER ประกอบธุรกิจลงทุนในบริษัทอื่น (โฮลดิ้ง) ปัจจุบันบริษัทฯ ถือหุ้น 99.99% ในบริษัท ไทย อิงเกอร์ (TEC ) ซึ่งเป็นบริษัทแกน (Core Company) ประกอบธุรกิจให้บริการรับเหมาก่อสร้างงานวิศวกรรมโยธาทุกประเภทรวมทั้งงานออกแบบวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม นอกจากนี้ยังประกอบธุรกิจสนับสนุนงานรับเหมาก่อสร้าง ประกอบด้วย 1.การออกแบบและผลิต พร้อมติดตั้งอุปกรณ์จากกระจกและอลูมิเนียม สำหรับงานสถาปัตยกรรมและงานตกแต่งดำเนินการโดย บริษัท ทีอีจี อลูมินั่ม(TEA )และ 2.ธุรกิจออกแบบและผลิต พร้อมติดตั้งระบบน้ำดีและน้ำเสีย รวมทั้งจัดหาและจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างอื่นๆ ดำเนินการโดย บริษัท ทีอี แมค(TEM)
ปัจจุบัน TIGER มีทุนจดทะเบียน 230 ล้านบาท เป็นทุนที่เรียกชำระแล้ว 168.86 ล้านบาท
นายจตุรงค์ ศรีกุลเรืองโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง (TIGER) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย อิงเกอร์ (TEC) ผู้ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานวิศวกรรมโยธาทุกประเภท กล่าวว่า บริษัทฯ เตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อขยายธุรกิจของทั้ง TEC TEA และ TEM
TEC เริ่มดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเมื่อปี 2545 โดยให้บริการรับเหมาก่อสร้างงานวิศวกรรมโยธาทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารและสาธารณูปโภคตามแบบที่ลูกค้ากำหนด โดยแบ่งโครงการออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1.โรงแรมและรีสอร์ท 2.อาคารสำนักงาน และอาคารอื่นๆ เช่น คอนโดมิเนียมแนวราบ 3.งานสาธารณูปโภคและงานภาครัฐ และ4.โครงการและงานอื่นๆ เช่น บ้านเดี่ยวราคาสูง งานระบบภายในตัวอาคาร เช่น งานระบบปรับอากาศ และงานปรับปรุงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ TEC มีทีมวิศวกรที่มีความชำนาญด้านงานวิศวกรรมก่อสร้าง และวิศวกรรมงานระบบที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคาร ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้งานลุล่วงด้วยดี
ทางด้านผลการดำเนินงาในช่วงปี 2558 – 2560 และ 6 เดือนของปี 2561 กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9.29 ล้านบาท 36.65 ล้านบาท 67.74 ล้านบาท และ 31.30 ล้านบาท ตามลำดับ ในปี 2559 เติบโต 294.72% ปี 2560 เติบโต 84.82% และ 20.38% จาก 6 เดือของปี 2560 คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 2.51% 7.40% 10.99% และ 8.85% ตามลำดับ