HoonSmart.com>>”พลังงานบริสุทธิ์” ขยายอาณาจักร ทุ่มกว่า 3 พันล้านบาทซื้อบริษัท สมาร์ทบัส จากกลุ่มบีทีเอส วิ่งรถโดยสารให้บริการมากกว่า 30 เส้นทาง นำมาเปลี่ยนพลังงานเป็นไฟฟ้า ต่อยอดธุรกิจของบล.บียอนด์ร่วมกับไทยสมายล์ บัส 11 เส้นทาง เพิ่มลูกค้ามั่นคง เพิ่มกำไรระยะยาว บอร์ด BYD ใจดี เพิ่มทุนขายผู้ถือหุ้นเดิม สัดส่วน 1 ต่อ 1 ขายแค่ 1 บาท ถูกมากเทียบราคาในตลาด 17.90 บาท รับเงินเฉียด 1,500 ล้านบาท ขยายการลงทุน
บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ (EA) แจ้งว่า บริษัทย่อย อีทรานสปอร์ต โฮลดิง (ETH) ได้ซื้อหุ้นทั้งหมด ในบริษัท สมาร์ทบัส (SMB) เป็นเงินทั้งสิ้น 3,279 ล้านบาท เพื่อขยายและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของกลุ่มบริษัทฯ ส่งผลให้หุ้นในกลุ่ม ปรับตัวขึ้นยกแผง นำโดย EA ราคาขึ้นไปสูงสุด 91.25 บาท ก่อนปิดที่ 89.25 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาทหรือ 1.13% มูลค่าการซื้อขาย1,441 ล้านบาท ตามด้วย บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ (BYD) ปิดที่ระดับสูงสุด 17.90 บาท บวก 1.60 บาท หรือ +9.82% มูลค่าการซื้อขาย 267.98 ล้านบาท และ บริษัท เน็กซ์ พอยท์ (NEX ) ปิดที่จุดสูงสุดเช่นเดียวกัน ที่ระดับ 17.90 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาทหรือ +6.55% มูลค่าการซื้อขาย 332.61 ล้านบาท
แหล่งข่าวกล่าวว่า บริษัท สมาร์ทบัส เดิมเป็นของกลุ่มบีเอส วิ่งรถโดยสารให้บริการมากกว่า 30 เส้นทาง เมื่อ EA ได้มา จะมีการปรับเปลี่ยนรถมาใช้พลังงานไฟฟ้าแทนน้ำมัน ช่วยให้ผลการดำเนินงานมีกำไร และยังนำมาต่อยอดธุรกิจของ BYD ที่ร่วมมือกับบริษัทไทยสมายล์ บัส (TSB) ที่ประกอบธุรกิจการขนส่งผู้โดยสารทางรถโดยสารประจำทางใน 11 เส้นทาง โดยวางแผนจัดซื้อรถบัสไฟฟ้าทั้งสิ้น 337 คัน ภายใน 3 ปี เพื่อนำมาทดแทนรถรุ่นเดิม โดยปัจจุบันรับมอบรถบัสไฟฟ้ามาแล้ว 112 คัน และในปีนี้คาดว่าจะรับมอบทั้งหมดราว 120 คัน ซึ่งรถบัสไฟฟ้ามีจุดเด่นคือการช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานเชื้อเพลิง ซึ่งจะสามารถสร้างกำไรได้เร็ว
ด้านคณะกรรมการบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวน 1,805,004,363 หุ้น พาร์หุ้นละ 5 บาท เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ขึ้น XR วันที่ 4 เม.ย.2565 จำนวน 1,439,671,222 หุ้น สัดส่วน 1 ต่อ 1 ราคาหุ้นละ 1 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 1,439.67 ล้านบาท กำหนดวันจองซื้อและชำระเงินวันที่ 17-23 พ.ค.2565 ทั้งนี้จะต้องขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 29 เม.ย. 2565 เวลา 14.00 น.
วัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน เพื่อนำเงินไปลงทุนในโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบันหรือโครงการใหม่ เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และความสามารถในการขยายกิจการ รวมถึงการมีสภาพคล่องมากขึ้น สร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน