BLA รับมือคนไทยออม-ลงทุนผ่านประกันเพิ่ม จัดพอร์ต ลงหุ้น 20% เน้นคุณค่า

HoonSmart.com>>”กรุงเทพประกันชีวิต”มองเบี้ยประกันรับรวมปี 65 โตต่อเนื่องตามเศรษฐกิจฟื้น คนใส่ใจประกันสุขภาพ บอนด์ยีลด์เพิ่มตามดอกเบี้ย เป็นโอกาสผลิตภัณฑ์ประกันสะสมทรัพย์-ยูนิตลิงค์ บริษัทจัดพอร์ต 20% ลงทุนหุ้นต่างประเทศมากขึ้น หุ้นนอกตลาด  บริษัทประกาศแผน 3 ปี เน้น 5 มิติ เสริมความสามารถแข่งขัน ธุรกิจโตอย่างยั่งยืน  ปี 67 ใช้ดิจิทัลทุกกระบวนการรับประกัน 

นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต (BLA) เปิดเผยว่า ในปี 2565 คาดธุรกิจประกันชีวิตจะเติบโตต่อเนื่อง บริษัทมองเห็นโอกาสของธุรกิจ จากความต้องการประกันสุขภาพที่เพิ่มขึ้น และเศรษฐกิจไทยเติบโต ขณะที่แนวโน้มเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร(บอนด์ ยีลด์) ปรับตัวสูงขึ้นตามเทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้น เป็นโอกาสสำหรับผลิตภัณฑ์ประกันสะสมทรัพย์และประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิตลิงค์) และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุจะช่วยสนับสนุนให้คนไทยมีความจำเป็นในการวางแผนการเงินเพื่อเกษียณ สำหรับตัวเองและครอบครัวมากขึ้นด้วย

โครงสร้างการออมของคนไทยในช่วง 6 ปี  หันมาออมและลงทุนผ่านประกันมากขึ้น จากเดิมอยู่ในระบบเงินฝากกับธนาคารสัดส่วน 44.55% กองทุน 24% กรมธรรม์ 10.2% อื่นๆประมาณ 80.75% ปัจจุบันมีการฝากเงินสัดส่วน 40.70% กองทุน 21.1% กรมธรรม์ 13.9% และอื่นๆ ประมาณ 25%

ดังนั้นบริษัทจะต้องสร้างอัตราผลตอบแทนที่ดีขึ้น พอร์ตการลงทุนในปี 2565  ภาพใหญ่คงไม่เปลี่ยนแปลงจากปี 2564 มากนัก โดยสัดส่วน 80% เป็นการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้เอกชน ส่วนที่เหลืออีก 20%เป็นการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น ตราสารทุน และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) และหุ้นที่มีแผนจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ (Private Equity)

” หุ้นยังน่าสนใจ เราจะลงทุนหุ้นต่างประเทศมากขึ้น จากเดิมเน้นในไทย แม้ว่าจะมีความผันผวนมากยิ่งขึ้น จากทิศทางนโยบายทางการเงินทั่วโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้กลุ่ม Value stock น่าสนใจมากกว่า Growth Stock ขณะเดียวกันจะต้องดูแลใกล้ชิดบริษัทที่มีต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้น รวมถึงบริษัทที่มีการกู้เงินมาก แต่ไม่ได้ปิดจุดเสี่ยงในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย”

ส่วนยูนิตลิงค์ของบริษัทมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) 3 แห่งเป็นพันธมิตร มี 12 แผนการลงทุนให้เลือก

นอกจากนี้ บริษัทหันมาขายประกันชีวิตของธุรกิจอื่นๆ ที่มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ ตามความต้องการของลูกค้า เช่น ธุรกิจด้านโทรคมนาคม ธุรกิจออนไลน์ และธุรกิจอื่นๆ ที่ต้องการผลิตภัณฑ์การเงินแบบครบวงจร การลงทุน การออม และประกันภัยประกันชีวิต โดยบริษัทได้เตรียมเพิ่มตัวแทนประกันชีวิตใหม่อีกอย่างน้อย 3,000 คน โดย ทำงานเต็มเวลาคิดเป็นสัดส่วน 25-30% ของตัวแทนประกันชีวิตใหม่ จากปัจจุบันมีตัวแทนประกันอยู่ทั้งหมด 12,000 คน

นายโชน กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของบริษัทและการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในอนาคต บริษัทจึงได้กำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปีข้างหน้า (2565-2567) เพื่อการเดินทางสู่อนาคตที่ยั่งยืน (a journey towards sustainable future) โดยมุ่งเน้น 5 มิติหลักขับเคลื่อนสู่องค์กร ซึ่งประกอบด้วย

1.Health บริการด้านสุขภาพที่เป็นเลิศ (Excellent Health Services) มุ่งพัฒนาสินค้าใหม่ เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ปัจจุบันมีแผนความคุ้มครองสุขภาพ ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย

2.Wealth ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่เข้าใจได้ง่ายสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม  เช่น ชนิดมีเงินปันผล

3.Digital Insurance ทุกกระบวนการรับประกัน ในรูปแบบดิจิทัล ภายใน 5 ปี ตั้งแต่กระบวนการขาย การออกกรมธรรม์ การบริการกรมธรรม์ และการต่ออายุกรมธรรม์ รวมไปถึงส่งเสริมการใช้งานดิจิทัลสำหรับผู้ถือกรมธรรม์ โดยมีแอปพลิเคชันสำหรับลูกค้า BLA Happy Life App และ Bangkok Life GMC App ปัจจุบันลูกค้าชำระด้วยเงินสดเพียง 3% และไม่ใช่เงินสดสูงถึง 97%

4.Channel การเพิ่มช่องทางการขาย มีคุณภาพและครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายและโอกาสทางการตลาด

5.Social Responsibility ขยายบทบาทและหน้าที่ต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ในปี 2564 บริษัทเป็น 1 ใน 146 บริษัทรายชื่อหุ้นยั่งยืน จากตลาดหลักทรัพย์ และได้รับรางวัลบริษัทประกันชีวิตที่มีการบริหารดีเด่น อันดับ 2 จากสำนักงานคปภ.

ส่วนการเครมประกันจากไวรัสโควิด-19 บริษัทได้รับผลกระทบไม่มาก คิดเป็นสัดส่วน 12% ของยอดเครมทั้งหมด ขณะเดียวกันยอดเครมประกันสุขภาพ เช่น เป็นหวัด ท้องเสีย กลับลดลง ทำให้ยอดเครมโดยรวมไม่ได้สูงขึ้น บริษัทจ่ายค่าสินไหมตามเงื่อนไขกรมธรรม์ทั้งผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยใน ปัจุบันบริษัทมีโรงพยาบาล 315 แห่ง เป็นพันธมิตรทั่วประเทศ ลูกค้าไม่ต้องสำรองจ่ายค่าบริการไปก่อน

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 11 เดือนของปี 2564 เบี้ยประกันชีวิตรับรวมทั้งระบบอยู่ที่ 545,039 ล้านบาท เติบโต 2.56%จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเป็นการเติบโตของกรมธรรม์ประกันสุขภาพ (Health Insurance) และประกันชีวิตควบการลงทุน แบบชำระเบี้ยครั้งเดียว (Single premium) สำหรับผลการดำเนินงานของกรุงเทพประกันชีวิต สามารถเติบโตได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวม และมีสัดส่วนเบี้ยประกันรับรายใหม่ผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก