HoonSmart.com>>UBE หรือ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) ที่เพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อ 30 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา แม้จะเป็นหุ้นไซต์เล็ก ในกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค ประเภท 50 หุ้น 100 บาท แต่ก็เป็นหุ้นเล็กที่ดี หรือ จิ๋วแต่แจ๋ว
โดยกลุ่มธุรกิจของ UBE เรียกได้ว่าเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมันสำปะหลังแบบครบวงจร มีกำลังผลิตโดยใช้มันสำปะหลังเข้าสู่กระบวนการผลิตมากถึง 1,200,000 ตันต่อปี ประกอบธุรกิจหลัก 3 ประเภท ได้แก่
1) ธุรกิจเอทานอล มีกำลังการผลิตเอทานอล 400,000 ลิตรต่อวัน หรือ 146 ล้านลิตรต่อปี
2) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายแป้งมันสำปะหลัง เป็นผู้ผลิตแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิครายใหญ่ของโลก มีปริมาณการส่งออกมากกว่า 20,000 ตันต่อปี ด้วยกำลังผลิต 700 ตัน/วัน และเป็นผู้ผลิตแป้งฟลาวมันสำปะหลังออร์แกนิค รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยกำลังผลิต 100 ตัน/วัน
3) ธุรกิจเกษตรอินทรีย์ มีพื้นที่ทางการเกษตร และมีเกษตรกรต้นแบบในการผลิตพืชออร์แกนิค โดยมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ คือ การผลิตกาแฟออร์แกนิค (Organic Coffee) และข้าวออร์แกนิค (Organic Rice) ผักปลอดสารพิษซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี
ที่บอกว่า UBE จิ๋วแต่แจ๋ว เพราะเป็นหุ้นที่มีอนาคตไกล ผลประกอบการค่อนข้างโดดเด่น
งวด 9 เดือน ปี 2564 มีรายได้รวม 5,059.55 ล้านบาท มากกว่ารายได้รวมของปี 2563 ที่ทำได้ 4,486.15 ล้านบาท
ขณะที่กำไรงวด 9 เดือนปีนี้ ทำได้มากถึง 204 ล้านบาท โตกว่า 2 เท่าของทั้งปี 2563 ที่มีกำไร 99.33 ล้านบาท
นี่ยังเหลือไตรมาสสุดท้ายของปีนี้อีก ซึ่งหากไตรมาสสุดท้ายทำกำไรได้ใกล้เคียงไตรมาส 3 จะทำให้ผลประกอบการงวดปี 2564 มีกำไรถึง 300 ล้านบาท หรือโตกว่า 202.02% เมื่อเทียบกับปี 2563
คุณเดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ UBE เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า จากนโยบายเปิดประเทศ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จะทำให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น สนับสนุนให้เกิดการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น และทำให้เกิดอุปสงค์เอทานอล ทำให้คาดว่ารายได้ปีนี้ จะเติบโตกว่า 20-30% เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่ทำได้ 4,486.15 ล้านบาท
หุ้น UBE มีอนาคตหรือไม่ ดูได้จากโครงสร้างผู้ถือหุ้น ซึ่งมีทั้ง บริษัท ไทยออยล์ เอทานอล จำกัด ในเครือปตท. และบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) ในเครือบางจาก ร่วมถือหุ้นรายละ 485.14 ล้านหุ้น หรือ 12.39% และกองทุนที่เน้นลงทุนระยะยาวทั้งในและต่างประเทศที่ให้ความสนใจหุ้น UBE อย่างต่อเนื่อง
มาดูมุมมองของนักวิเคราะห์กันบ้าง ว่าเขามองหุ้น UBE ไว้อย่างไร
ในมุมของ บล.เคจีไอ มองในมุมบวก คาดว่าไตรมาส 4 ปีนี้ กำไรสุทธิจะเติบโตขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบไตรมาส 3/64 จากปริมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้นของเอทานอลเกรดเชื้อเพลิง แป้งมันสำปะหลังออร์แกนิค และแป้งฟลาว โดยเชื่อว่าราคาหุ้นจะได้แรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่คาดว่าออกมาดีในไตรมาส 4/64 และปีหน้าคาดว่าจะโตถึง 86% เป็น 543 ล้านบาท ให้ราคาเป้าหมายปีหน้าไว้ที่ 3.20 บาท อิงค่าพี/อี เรโช ที่ 23 เท่า
ส่วนมุมมองของบล.กรุงศรี ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 3.00 บาท คาดว่ากำไรโค้งสุดท้ายของปี หรือไตรมาส 4/64 จะแข็งแกร่ง จากอุปสงค์เอทานอลเกรดเชื้อเพลิงที่เติบโตในไตรมาส 4 จากปัจจัยหนุนการเปิดเมืองทำให้คาดว่าทั้งปี 2564 UBE จะมีกำไร 331 ล้านบาท และปีหน้าขยับเป็น 446 ล้านบาท
ล่าสุด UBE เพิ่งจะคว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประจำปี 2564 ประเภทอุตสาหกรรมศักยภาพ จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ในงาน The Prime Minister’s Industry Award 2021 โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้มอบรางวัลทรงเกียรตินี้
ซึ่งคุณเดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ UBE ระบุว่า นับเป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จในการเป็นผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์พรีเมียมจากการแปรรูปมันสำปะหลัง โดย UBE ถือเป็น 1 ใน 63 ผลงานที่ได้รับรางวัลจากทั่วประเทศ ผลงานโดดเด่นทางด้านอุตสาหกรรมศักยภาพ New – S Curve เพิ่มมูลค่าสินค้าทางการเกษตร ด้วยการใช้ยีสต์สดเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเอทานอล สะท้อนการผลิตด้วยนวัตกรรมฐานชีวภาพ หมุนเวียนพลังงาน และดำเนินธุรกิจสีเขียวอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิด BCG Model