ACC แจงไม่ทราบเหตุหุ้นพุ่งผิดปกติ ตั้งบ.ย่อยลุยกัญชา กัญชง

HoonSmart.com>> “แอดวานซ์ คอนเนคชั่น คอร์ปอเรชั่น” แจง Trading Alert List ไม่ทราบเหตุราคาหุ้นพุ่งแรง ไม่มีพัฒนาการสำคัญไม่ได้เปิดเผย ด้านความคืบหน้าขายหุ้น ซี.อี.ไอ (เชียงใหม่) และเอซีซี กรีน เอนเนอร์จี ขยายเวลาชำระค่าหุ้นให้ผู้ซื้อถึง 30 ธ.ค.64 พิษโควิดหาเงินชำระไม่ทันตามสัญญา ยังเหลือจ่าย 480 ล้านบาท ส่วนตั้งบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจกัญชง กัญชา หวังสร้างความเข็มแข็งกับกลุ่มบริษัท

บริษัท แอดวานซ์ คอนเนคชั่น คอร์ปอเรชั่น (ACC) ชี้แจง Trading Alert List ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการสอบถามถึงพัฒนาการใดๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาหลักทรัพย์ของ ACC เนื่องจากพบว่าสภาพการซื้อขายหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากวันก่อนหน้า เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและหรือผู้ลงทุนได้มีข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจลงทุนอย่างครบถ้วนนั้น

ปัจจุบันบริษัทมีพัฒนาการใดๆ ที่ยังไม่ได้เปิดเผย หรือสารสนเทศที่มีนัยสำคัญที่บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาและอาจเปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯในระยะเวลาอันใกล้ เช่น การเพิ่มทุน การร่วมทุน การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินหรือข้อพิพาทที่สำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพการซื้อขายที่เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ นอกจากนี้บริษัทไม่ทราบถึงสาเหตุอื่นใดที่อาจส่งผลกระทบต่อการซื้อขายหรือไม่ รวมทั้งไม่มีสารสนเทศอื่นที่บริษัทต้องการชี้แจง

ด้านหุ้น ACC ปิดตลาด 24 พ.ย.2564 พุ่ง 15.13% หรือ 0.18 บาท ปิดที่ 1.37 บาท มูลค่าการซื้อขาย 498.74 ล้านบาท

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศหุ้นเข้าข่ายมาตรการระดับ 2 ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.-15 ธ.ค.2564

ราคาหุ้นล่าสุด 11.46 น. อยู่ที่ 1.35 บาท ลดลง 0.02 บาท หรือ -1.46% มูลค่าการซื้อขาย 35.53 ล้านบาท

พร้อมกันนี้บริษัทฯ รายงานความคืบหน้าการขายเงินลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท ซี.อี.ไอ (เชียงใหม่) และบริษัท เอซีซี กรีน เอนเนอร์จี ทั้งหมดให้กับบริษัท ไทยลานนา ฟู้ด แอนด์ คัลเชอรัล เซ็นเตอร์ว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 18 ต.ค.2564 มีมติให้ขยายเวลาการรับชำระราคาขายหุ้นดังกล่าวให้กับผู้ซื้อไปจนถึงวันที่ 30 ธ.ค.2564 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้ซื้อยังไม่สามารถจัดหาเงินได้ครบตามสัญญา

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 พ.ย.2564 บริษัทได้รับชำระเงินมัดจำค่าหุ้นเพิ่มเติมจำนวน 25 ล้านบาท รวมบริษัทได้รับชำระเงินมัดจำค่าหุ้นแล้ว 70 ล้านบาท คงเหลืออีก 480 ล้านบาท

นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารเมื่อวันที่ 20 พ.ค.2564 อนุมัติให้จัดตั้งบริษัทย่อย 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท เอซีซีแคนนาบิส ทุนจดทะเบียน 40.00 ล้านบาท ดยได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแล้วเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2564 บริษัทถือหุ้น 100% ของหุ้นทั้งหมด และบริษัทได้จ่ายชำระค่าหุ้นดังกล่าวจำนวน 10 ล้านบาท ในอัตรา 25% ของทุนจดทะเบียน แล้วเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2564 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการประกอบกิจการ การวิจัย พัฒนาผลิต (ปลูก) และแปรรูปกัญชง กัญชา

ต่อมาเมื่อประชุมคณะกรรมการบริหารของบริษัท เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2564 มีมติอนุมัติให้ขายเงินลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท เอซีซี แคนนาบิส จำนวน 800,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 2.50 บาท คิดเป็นเงิน 2.00 ล้านบาท ให้กับบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกัน 1 ท่าน และบริษัทได้รับชำระเงินค่าหุ้นแล้วทั้งจำนวนเมื่อวันที่ 1 พ.ย.2564

นอกจากนี้อนุมัติจัดตั้งบริษัท เอซีซียูทิลิตี้ส์ ทุนจดทะเบียน 1.00 ล้านบาท โดยจดทะเบียนเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2564 โดยบริษัทมอบให้บริษัท เอซีซีอินฟรา ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ถือหุ้น 51% ของหุ้นทั้งหมด จำนวนหุ้น 49% เป็นการถือหุ้นของบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกัน โดยบริษัทย่อยได้จ่ายชำระค่าหุ้นดังกล่าวจำนวน 509,980 บาท แล้วเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2564 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบการกิจการรับเหมาก่อสร้าง

ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร เมื่อวันที่ 26 ส.ค.2564 มีมติอนุมัติให้จัดตั้งบริษัท ไฮ อินโนเวชั่น เทคโนโลยี ทุนจดทะเบียน 4.00 ล้านบาท โดยได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแล้วเมื่อวันที่ 8 ก.ย.2564 โดยบริษัทมอบหมายให้ บริษัท บริหารสินทรัพย์เอซีซี แคปปิตอล ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ถือหุ้น 60% ของหุ้นทั้งหมด ส่วนที่เหลือ 40% เป็นการถือหุ้นของบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกัน โดยบริษัทย่อยได้จ่ายชำระค่าหุ้นดังกล่าวจำนวน 599,995 บาท ในอัตรา 25% ของทุนจดทะเบียน แล้วเมื่อวันที่ 17 ก.ย.2564 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบกิจการพัฒนาระบบอีคอมเมิร์ชการตลาดออนไลน์

นอกจากนี้อนุมัติจัดตั้งบริษัท ไฮ แคนนาบิซ ครอป ทุนจดทะเบียน 4.00 ล้านบาท โดยได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแล้วเมื่อวันที่ 8 ก.ย.2564 โดยบริษัทมอบให้บริษัท เอซีซีแคนนาบิส ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ถือหุ้น 60% ที่เหลือ 40% เป็นการถือหุ้นของบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกัน โดยบริษัทย่อยได้จ่ายชำระค่าหุ้นดังกล่าวจำนวน 599,995 บาท ในอัตรา 25% ของทุนจดทะเบียน แล้วเมื่อวันที่ 17 ก.ย.2564 โดยมีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการปลูกสกัดแปรรูปจัดจำหน่ายนำเข้าส่งออกดำเนินธุรกิจทุกด้านที่เกี่ยวข้องวัตถุดิบกัญชง กัญชา

ทั้งนี้ การจัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อเพิ่มช่องทางการดำเนินการธุรกิจใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับการประกอบธุรกิจในยุคปัจจุบันและสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มบริษัทในอนาคต