HoonSmart.com>>”ซีเค พาวเวอร์”พบนักวิเคราะห์ มีมุมมองบวก คาดกำไรไตรมาส 4/64 โตขึ้นกว่าปีก่อน โครงการโรงไฟฟ้าหลวงพระบางในลาวคืบหน้า คาดเพิ่มมูลค่า 2.2 บาทต่อหุ้น รัฐบาลไทยหนุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ บล.เมย์แบงก์ฯเพิ่มเป้ากำไรปีนี้อีก 8% ทุบสถิติ 2,331 ล้านบาท พุ่ง 476% ส่วนปีหน้า 2,302 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1.2% ปริมาณฝนเหนือเขื่อนเดือน ก.ย. – พ.ย. ไม่ดีเท่าควร เป็นปัจจัยเสี่ยง
บริษัท ซีเค พาวเวอร์ (CKP) ได้จัดประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวาน (22 พ.ย.) บล.กรุงศรีคงคำแนะนำ “ซื้อ” CKP ราคาเป้าหมาย 6.50 บาทต่อหุ้น จาก Upside ที่น่าสนใจ ได้แก่ กำไรในไตรมาสที่ 4/2564 อาจเติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน รอเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางในลาวกำลังการผลิตติดตั้ง 1,460 MW สัญญาสัมปทานกับประเทศลาวมีความคืบหน้า 80% จาก 60%ในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา และ MOU อัตราค่าไฟหรือสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับกฟผ.มีความ
คืบหน้า 60% ประเมินโครงการโรงไฟฟ้าหลวงพระบางจะเพิ่มมูลค่า 2.2 บาทต่อหุ้นให้ CKP
นอกจากนี้ยังมีมุมมองเชิงบวกในระยะยาวต่อนโยบายของรัฐบาลต่อภาวะโลกร้อน ที่จะเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดมากขึ้นและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดเป็นศูนย์ (ประเทศเป็นกลางทางคาร์บอน) ภายในปี 2065-2070 จึงทำให้โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำและพลังงานหมุนเวียนอื่นมีแนวโน้มได้แรงหนุนจากนโยบายรัฐ มากกว่าโรงไฟฟ้าแบบดั้งเดิม
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็งแนะ “ซื้อเก็งกำไร”หลังราคาดีดขึ้นแรง ให้มูลค่าเหมาะสมที่ 6.50 บาท แม้คาดกำไรไตรมาสที่ 4 จะชะลอตัวลดลงตามฤดูกาลเหลือ 275 ล้านบาท เทียบกับกำไรในไตรมาสที่ 2 และ 3 ที่มีกำไรถึง 707 ล้านบาท และ 1,235 ล้านบาท ตามลำดับ แต่จะดีกว่าปีก่อนที่มีกำไรเพียง 8 ล้านบาท รวมปี 2564 กำไรจะทำสถิติ 2,331 ล้านบาท โต 476% หลังปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้น 8%
อย่างไรก็ตามปริมาณฝนเหนือเขื่อนเดือน ก.ย. – พ.ย. ไม่ดีเท่าควร เป็นปัจจัยเสี่ยงในปีหน้า คาดกำไรปี 2565 เท่ากับ 2,302 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1.2%