ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษอดีตผู้บริหาร IFEC ปรับ 1 ล้าน ห้ามซื้อขายหุ้น 3 ปี

HoonSmart.com>> ก.ล.ต.เผยศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษา แก้คำพิพากษาศาลแพ่ง ลงโทษ “ศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์” อดีตกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IFEC ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต สั่งชำระค่าปรับทางแพ่ง อัตราโทษสูงสุด 1 ล้านบาท ห้ามซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ 3 ปี ห้ามนั่งกรรมการ เป็นผู้บริหารบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบล.เป็นเวลา 5 ปี

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นํามาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับนายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ ซึ่งในขณะกระทำความผิดเป็นกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) กรณีไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริตตามมาตรา 89/7 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยให้ชำระค่าปรับทางแพ่ง ห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ และให้ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด แต่นายศุภนันท์ไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งดังกล่าว

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2562 พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องคดีนายศุภนันท์ต่อศาลแพ่ง เป็นคดีหมายเลขดำที่ พ. 3192/2562 ซึ่งเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2563 ศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาเป็นคดีหมายเลขแดงที่ พ. 4741/2563 โดยให้จำเลยชำระค่าปรับทางแพ่งเป็นเงินจำนวน 300,000 บาท คำขออื่นให้ยก

ต่อมาเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษา (คดีหมายเลขดำที่ 616/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 11344/2564) แก้คำพิพากษาศาลแพ่ง เป็นว่า ให้จำเลยชำระค่าปรับทางแพ่งเป็นเงินจำนวน 1,000,000 บาท ซึ่งเป็นโทษสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด พร้อมทั้งห้ามจำเลยเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์หรือศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ หรือเข้าผูกพันตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นเวลา 3 ปี นับแต่วันทราบคำพิพากษา ห้ามจำเลยเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันทราบคำพิพากษา และให้จำเลยชดใช้ค่าใช้จ่ายของโจทก์เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิดของจำเลยเป็นเงินจำนวน 110,042 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราที่กฎหมายกำหนด นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ ก.ล.ต. โจทก์ ซึ่งคดีถึงที่สุดแล้วตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

นายศักรินทร์ ร่วมรังษี รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า คดีนี้เป็นกรณีกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต ที่ดำเนินคดีโดยใช้มาตรการลงโทษทางแพ่ง โดยยื่นฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2562 และศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 หากจําเลยไม่ปฏิบัติตามคําพิพากษา ก.ล.ต. จะดำเนินการบังคับคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

อ่านข่าว

ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษาสั่งลงโทษสูงสุด “ศุภนันท์” อินไซด์ขายหุ้น IFEC