HoonSmart.com>> “เซ็นทรัลพัฒนา” เผยไตรมาส 3/64 กำไรสุทธิ 229 ล้านบาท วูบลง 91% จากงวดปีก่อน เหตุล็อคดาวน์ปิดบริการศูนย์การค้าชั่วคราว หลังโควิดระบาดหนัก รายได้ลดลง 33% เหลือ 5,103 ล้านบาท ฉุดงวด 9 เดือน กำไรเหลือ 5,332 ล้านบาท ลดลง 29% ด้าน ASPS คงคำแนะนำ “ซื้อ” เป้าปีหน้า 69 บาท
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2564 กำไรสุทธิ 229.18 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.05 บาท ลดลง 90.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 2,480.54 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.55 บาท
ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2564 กำไรสุทธิ 5,332.40 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.19 บาท ลดลง 29.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 7,539.65 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.68 บาท
บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวมในไตรมาส 3/2564 จำนวน 5,103 ล้านบาท ลดลง 32.9% และมีรายได้รวมงวด 9 เดือน ปี 2564 จำนวน 20,995 ล้านบาท ลดลง 11.6% จากงวกเดียวกันของปีก่อน หากไม่รวมรายการที่มิได้เกิดขึ้นประจำและผลกระทบจากมาตรฐานรานงานทางการเงิน บริษัทฯ มีรายได้รวม 4,808 ล้านบาทและขาดทุนสุทธิ 199 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนแรกปี 2564 มีรายได้รวม 17,389 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 1,687 ล้านบาท)
สาเหตุหลักมาจากรายได้ค่าเช่าและบริการไตรมาส 3/2564 ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อคดาวน์ ทำให้มีการปิดให้บริการศูนย์การค้าชั่วคราวในพื้นที่เสี่ยงเป้นเวลาเกือบ 2 เดือน หากเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าศูนย์การค้าทุกแห่งปิดบริการตามปกติและฟื้นตัวจากสถานการณ์ COVID19 รอบแรกได้ค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ดีบริษัทฯ ได้ดำเนินการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายการบริหารมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องและเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อผลการดำเนินงานให้ได้มากที่สุดและเพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากที่บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ระลอกที่สามและสี่ จำนวนผู้ติดเชื้อสูงขึ้นในเดือนก.ค. ทางภาครัฐจึงปะรกาศมาตรการจำกัดพื้นที่ควบคุมต่างๆ เพื่อลดการแพร่ระบาด บริษัทฯ จึงปิดศูนย์การค้าชั่วคราวในเขตกรุงเทพฯและะปริมณฑล และจังหวัดควบคุมสูงสุดซึ่งเป็นพื้นที่เสียงโดยเปิดให้บริการเฉพาะในส่วนที่จำเป็นตามที่ภาครัฐกำหนด
ปัจจุบันบริษัทฯ บริหารจัดการศูนย์การค้าทั้งสิ้น 34 แห่ง มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 1.8 ล้านตารางเมตร (ตร.ม.) รวมถึงมีอัตราการเช่าพื้นที่ศูนย์การค้าในประเทศเฉลี่ย ณ สิ้นไตรมาส 3/2564 เท่ากับ 91%
ด้านบล.เอเซีย พลัส (ASPS) เผยผลกระทบของการ Lockdown และปิดบริการชั่วคราวศูนย์การค้าในพื้นที่สีแดงเข้มรวมตั้งแต่ 12 ก.ค.-31 ส.ค. 2564 กระทบต่อรายได้ค่าเช่า และกดดันมาร์จิ้น หลังการประหยัดต่อขนาดเรื่องต้นทุนลดลง ส่งผลให้กำไรปกติ 3Q64 ลดลงจาก 1.15 พันล้านบาทงวดก่อน เหลือเพียง 126 ล้านบาท แม้ต่ำกว่าคาด แต่เชื่อว่าเป็นจุดต่ำสุดของปี
การคลาย Lockdown และเปิดประเทศ หนุนให้ปริมาณ Traffic ฟื้นตัวเร็วเป็น 70-75% เดือน ต.ค. และคาดสูงกว่า 80-90% เดือน พ.ย.- ธ.ค. 2564 รวมถึงทิศทางส่วนลดค่าเช่าคาดลดลงจากเฉลี่ย 56% ใน 3Q64 และการเปิดบริการ 2 ศูนย์ฯ ใหม่ คาดหนุนกำไร 4Q64 ฟื้นอย่างมีนัยฯ
บล.เอเซีย พลัส ยังคงประมาณการ แนะนำซื้อ CPN ราคาเหมาะสม ปี 2565 ที่ 69 บาท (อิง DCF-WACC 7.5%)