บล.คิงส์ฟอร์ดวางแนวรับ 1,625-1,630 จุด แนะ SC-TNP

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนีที่ 1,625 – 1,630 จุด รอรายงานกำไรบจ. ประชุม BOJ, ECB, FED แนะซื้อเก็งกำไร SC-TNP

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ วาง Filter แนวรับดัชนี SET ที่ 1,625 – 1,630 จุด กรณียืนได้ถือพอร์ตต่อ โดยอยู่ระหว่างรอรายงานกำไร บจ. Q3/64 และการประชุม BOJ, ECB, FED แนะนำซื้อทยอยซื้อ BBL,KBANK,SCB/ CPALL,CPN/ AP, ORI/BDMS,BH/ AMATA,WHA,ROJANA

สำหรับดัชนี SET วานนี้ -0.56% ปริมาณการซื้อขายลดลงอยู่ที่ 6.5 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 2.1 พัน ลบ. สถาบันขาย 1.2 พัน ลบ.หุ้นกลุ่มเปิดเมืองปรับขึ้นก่อนหน้านี้ถูกแรงขายทำกำไร และกลุ่มพลังงาน -1.09% หลังจีนเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันและก๊าซเพื่อลดผลกระทบจากราคาพลังงานสูงขึ้น ขณะที่กลุ่มอสังหา +0.88% รับ มาตรการปรับลด LTV โดยศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธ.กรุงไทยคาดส่งบวกให้ยอดโอนปี 65 สูงถึง 6.46 แสนล้านบาท

ภาพรวมนักลงทุนรอผลการประชุม ธ.กลางหลัก ๆ และรายงานกำไร บจ. วานนี้ DTAC รายงานกำไร Q3/64 อยู่ที่ 832ล้านบาท -57% QoQ, -42% YoY, วันนี้รายงานกำไร Q3/64 ของ SCGP คาด 1.5 – 1.8 พันล้านบาท

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.18%, S&P500 +0.47%, Nasdaq +0.90% ได้แรงหนุนจากกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย +2.11%, พลังงาน +1.44% และกลุ่มอุตสาหกรรม ขณะที่ Tesla +12.66% รับคำสั่งจองรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 1 แสนคันจากเฮิร์ซบริษัทบริการเช่ารถยนต์ นักลงทุนรอการรายงานกำไร Q3/64 ของกลุ่มเทคโนโลยี เช่น Facebook, Alphabet, Microsoft, Apple

ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.07% ทรงตัวจากความกังวลเงินเฟ้อและแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน, เหมื่องแร่ และธนาคาร ขณะที่กลุ่มสาธารณูปโภคและอุตสาหกรรมปรับลดลง จากผลกระทบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้น

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ SC (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 3.96 บาท) ได้อานิสงค์บวกจากการปรับเกณฑ์มาตรการ LTV กระตุ้นกำลังซื้อ ทำให้ Sentiment ของตลาดอสังหาฯ กลับมาคึกคักขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัวใน 4Q64 ต่อเนืองถึงปี 65 แม้ระยะสั้นการแพร่ระบาดโควิด-19 เข้ามา ทำให้การขายและการเปิดโครงการเกิดการชะลอตัวลงไปชั่วคราว แต่ปัจจุบันบริษัทพร้อมกลับมาเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องแล้ว โดยในช่วงเดือน ก.ย.เปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 4 โครงการ มูลค่ารวม 5.64 พันล้านบาท เป็นแนวราบ 3 โครงการ และคอนโดมิเนียมร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่น 1 โครงการ

ไตรมาส 4Q64 เตรียมเปิดโครงการแนวราบอีก 4 โครงการ มูลค่ารวม 5.76 พันล้านบาท ทั้งนี้ผู้บริหารยังมั่นใจยอดขายในปี 64 ยังทำได้ตามเป้าที่ 2 หมื่นล้านบาท ด้าน Valuation ยังไม่แพงซื้อขายที่ PER 7.4x และ PBV 0.82x

หุ้น TNP (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 7.05 บาท) คาดว่าทิศทางการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปียังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโต โดยการระบาดของ Covid-19 ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงหลังสงกรานต์มีผลกระทบน้อย สืบเนื่องจาก กลุ่มลูกค้าหลักยังเป็นประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ บวกกับอานิสงส์ จากมาตรการการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐผ่านโครงการต่างๆ ทำให้ประชาชนยังมีกำลังในการจับจ่ายใช้สอย สินค้าสำหรับอุปโภคและบริโภค

นอกจากนี้ ในช่วง 4Q64 มีโอกาสสูงที่การ Reopening จะเป็นไปด้วยดี เป็นบวกต่อสาขาของ TNP* ส่วนใหญ่ซึ่งอยู่ในจ.เชียงรายเป็นจุดหมายท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ทั้งนี้ตลาดคาด EPS ปี64 และ ปี65 จะขยายต่อเนื่องจากปี 63 ที่ 0.17 บาท/หุ้น มาอยู่ที่ 0.24 บาท/หุ้น, และ 0.27 บาท/หุ้น ตามลำดับ