HoonSmart.com>> “โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์” กำไรไตรมาส 3/64 จำนวน 870 ล้านบาท ลดลงเกือบ 38% จากงวดปีก่อน ผลกระทบโควิด-19 ล็อกดาวน์ฉุดรายได้รวมอยู่ที่ 13,777 ล้านบาท ลดลง 2,241 ล้านบาท เกือบ 14% ส่วนงวด 9 เดือนกำไร 3,665 ล้านบาท เติบโต 1.54%
บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2564 กำไรสุทธิ 870.41 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.07 บาท ลดลง 37.85% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,400.52 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.11 บาท
ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2564 กำไรสุทธิ 3,665.47 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.28 บาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 3,609.72 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.27 บาท
บริษัทฯ มีรายได้รวมในไตรมาส 3/2564 จำนวน 13,776.84 ล้านบาท ลดลง 2,240.83 ล้านบาท หรือ 13.99% จากงวดปีก่อน โดยรายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า ซึ่งเป็นรายได้ที่ประกอบไปด้วยรายได้จากการขายสินค้า และรายได้จากการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 13,170.18 ล้านบาท ลดลง 1,894.13 ล้านบาท หรือ 12.57% โดยภาพรวมยอดขายในประเทศได้รับผลกระทบจากทั้งการปิดสาขาชั่วคราวตามคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)และจากกำลังซื้อในประเทศที่ลดลงตามสภาวะเศรษฐกิจ แม้ในเดือนก.ย.2564 รัฐบาลจะมีการผ่อนคลายกฎระเบียบ กำลังซื้อก็ยังไม่กลับมาเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า
ส่วนสถานการณ์ยอดขายของสาขาในต่างประเทศได้รับผลกระทบจากมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดเช่นเดียวกัน โดยมีรายได้ค่าเช่า 217.05 ล้านบาท ลดลง 270.16 ล้านบาท หรือ 55.45% เป็นผลจากการที่บริษัทฯ ยังคงมีการปรับลดหรือยกเว้นค่าเช่าให้แก่ผู้เช่า ซึ่งยังได้รับผลกระทบจากระบาดของ COVID-19
นอกจากนี้ ตามคำสั่งของรัฐบาลได้กำหนดให้สามารถเปิดธุรกิจในศูนย์การค้า ได้เพียงบางประเภท ซึ่งสามารถเปิดได้น้อยกว่าช่วงเวลาปิดศูนย์การค้าในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ รายได้ร้านค้าเช่าจากศูนย์การค้าลดลง รวมถึง ไม่มีรายได้ค่าเช่าจากพื้นที่เช่าที่มาจากการจัดงาน Homepro Expo เมื่อเทียบกับในไตรมาสที่ 3 ของปี 2563 ที่มีการจัดกิจกรรม HomePro Expo และรายได้อื่นลดเหลือจำนวน 389.61 ล้านบาท ลดลง 76.54 ล้านบาท หรือ 16.42% จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้าที่ลดลงตามช่วงที่มีการปิดสาขา
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังคงอัตราพนักงานไว้ในสาขาเพื่อให้บริการแก่ลูกค้า เนื่องจากลูกค้าไม่สามารถเลือกซื้อสินค้าด้วยตัวเองที่สาขาได้ตามปกติ ทำให้การสั่งซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์เติบโตขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปีที่ผ่านมาราว 120% หรือเทียบเป็นสัดส่วน 9.4% ของยอดขายในไตรมาสที่ 3 ของรายได้จำหน่ายสินค้าและบริการ ซึ่งยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากส่วนนี้จึงสามารถช่วยลดผลกระทบจากภาพรวมรายได้ที่ลดลงจากการปิดสาขาไปได้บางส่วน
ด้านค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคในสาขาปรับลดลงตามการใช้งานโดยเฉพาะในสาขาที่ปิดทำการชั่วคราว แต่โดยรวมค่าใช้จ่ายด้านการบริหารยังคงปรับเพิ่มจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการแพร่ระบาดฯ เช่น ค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงพยาบาลสนาม และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการตรวจหาเชื้อของพนักงาน รวมถึงการดูแลรักษาทางการแพทย์ รวมถึงมีการลงทุนในการพัฒนาระบบต่างๆในบริษัทฯ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่มีในระบบแพลตฟอร์มต่างๆ ของบริษัทฯ เพื่อสอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ด้านบล.กรุงศรี มองผลประกอบการไตรมาส 3/64 ออกมาตามที่ฝ่ายวิเคราะห์คาด แต่ต่ำกว่าตลาด 14% ผลกระทบจากล็อกดาวน์ส่งผลให้ยอดขายสาขาเดิมติดลบ 13-14% ยังคงแนะนำ “ซื้อ” HMPRO ราคาเป้าหมาย 16.50 บาท