กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้อยู่ในกรอบ 33.00-33.60 บาท/ดอลล์

HoonSmart.com>>กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.00-33.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ติดตามการเปิดประเทศ 1 พ.ย. นี้

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.00-33.60 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดตลาดอ่อนค่าที่ 33.37 บาท/ดอลลาร์ ผลจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะที่ตลาดคลายกังวลชั่วคราวเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีน และคาดว่าธนาคารกลางหลายแห่งมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยรายงานภาวะเศรษฐกิจของเฟดระบุว่าราคาและค่าจ้างเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนแนวโน้มกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระยะสั้นยังคงเป็นบวก แต่ในบางพื้นที่มีความไม่แน่นอนมากขึ้น

โดยตลาดยังมองว่าธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนพฤศจิกายนนี้ ขณะที่เงินหยวนแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 4 เดือน หลังจากธนาคารกลางจีนกำหนดค่ากลางของ USD/CNY ต่ำกว่า 6.4 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 8,738 ล้านบาท แต่ขายพันธบัตร 1,474 ล้านบาท

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ตลาดจะติดตามข้อมูลจีดีพีไตรมาส 3 และค่าใช้จ่ายบริโภคส่วนบุคคลเดือนกันยายนของสหรัฐฯ รวมถึงการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งคาดว่าจะเน้นการสื่อสารกับตลาด แต่ยังไม่มีการปรับนโยบายในอนาคตอันใกล้ แม้ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่อีซีบีหลายรายออกมาเตือนเรื่องความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่อาจอยู่สูงนานกว่าที่เคยประเมินไว้ แต่กรุงศรีเชื่อว่าเงินเฟ้อในระยะยาวจะอยู่ต่ำกว่ากรอบเป้าหมายของอีซีบี โดยในกลุ่มเศรษฐกิจหลักคาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) และอีซีบีจะเป็นประเทศหลังๆที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี ตลาดเริ่มพูดถึงความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินเฟ้อรุนแรง (Hyperinflation) มากขึ้น ซึ่งจะสร้างความผันผวนให้กับราคาสินทรัพย์ต่างๆในระยะนี้

สำหรับปัจจัยในประเทศ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับรายงานภาวะเศรษฐกิจเดือนกันยายนจากธปท. ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าการส่งออกเดือนกันยายนเติบโต 17.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำเข้าขยายตัว 30.3% ส่งผลให้เกินดุลการค้า 0.61 พันล้านดอลลาร์ ส่วนแนวทางเปิดรับนักท่องเที่ยวในวงกว้างและการยกเลิกมาตรการเคอร์ฟิว คาดว่าจะช่วยหนุน Sentiment การฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อไป