HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนีที่ 1,630 จุด แนวต้าน 1,655 – 1,660 จุด หุ้นเด่นวันนี้แนะซื้อ DMT เก็งกำไร LALIN
บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ คาดดัชนี SET ได้แรงหนุน มาตรการประเทศช่วยหนุนการฟื้นตัวใน Q4 นี้ แต่ Upside ดัชนีจำกัดอยู่ระหว่างรอรายงานกำไร บจ. Q3/64 และรอประชุม BOJ, ECB, FED โดยวางแนวรับดัชนีที่ 1,630 จุด แนวต้าน 1,655 – 1,660 จุดแนะนำซื้อ BBL,SCB / CPALL,CPN / AP, ORI / BDMS,BH
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.21%, S&P500 -0.11%, Nasdaq -0.82% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มการเงิน +1.33% ขณะที่กลุ่มบริการสื่อสาร -2.28% หลัง Snap รายงานกำไร Q3/64 ต่ำกว่าคาดการณ์ เช่นเดียวกับ Intel -12% หลังรายงานยอดขาย Q3/64 ต่ำกว่าคาดเนื่องจากภาวะขาดแคลนชิป ส่วนรายงาน Markit PMI รวมภาคผลิตและบริการสหรัฐ เบื้องต้น ต.ค. เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 57.3 &ก.ย. 55.0 เป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน
ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.46% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เช่น ASML, SAP และ Refinitivคาดการณ์กำไร Q3/64 บจ.ใน Stoxx600 เพิ่มขึ้น +47.6% YoY
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ DMT (ซื้อ / ราคาเป้าหมายเฉลี่ย IAA Consensus 17.00 บาท) เป็นหนึ่งในหุ้นที่เกี่ยวข้องใน Theme เปิดเมือง โดยคาดปริมาณการสัญจรผ่านทางด่วนโทลเวย์จะทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามจำนวนเที่ยวบินเข้า-ออกสนามบินดอนเมือง ภายหลังรัฐบาลประกาศแผนเปิดประเทศที่ชัดเจน รวมถึงเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมเวลาเคอร์ฟิวและจังหวัดพื้นที่ควบคุม ทั้งนี้คาดโมเมนตัมการฟื้นตัวจะเริ่มจาก 4Q64 ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า ขณะที่ในอนาคตมีแผนขยายงานและสร้างโอกาสทางธุรกิจเพื่อร่วมโครงการภาครัฐที่ให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนเป็นผู้รับสัมปทาน เช่น โครงการระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติ โครงการพัฒนาจุดพักรถริมทางหลวง โครงข่ายระบบขนส่งรอง เป็นต้น
หุ้น LALIN (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 11.80 บาท) หุ้นกลุ่มอสังหาฯรับปัจจัยบวกจากการผ่อนคลายมาตรการ LTV (20 ต.ค.64-31ธ.ค.65) ด้านบริษัทฯ ยังคงเป้ายอดขายโครงการของปีที่ 7,000 ล้านบาท จากการตลาดที่เน้นลูกค้า Real Demand เป็นหลัก(โครงการแนวราบ) และตั้งเป้ารับรู้รายได้จากการโอนที่ 6,000 ล้านบาท(1H64 รับรู้แล้ว >50%) ทั้งนี้ในช่วง 4Q64 บริษัทฯวางแผนเปิดตัว 2 โครงการใหม่ในโซนนนทบุรี และโซนสุวรรณภูมิ อนึ่งตลาดคาดว่า EPS ปี64 จะหดตัวเล็กน้อยจากปี 63 ที่ 1.44 บาท/หุ้น มาอยู่ที่ 1.38 บาท/หุ้น แต่จะกลับมาขยายตัวในปี65 ที่ 1.53 บาท/หุ้น