บล.คิงส์ฟอร์ดมองแนวโน้มหุ้นทดสอบ 1,640 จุดแนะซื้อกลุ่มเปิดเมือง

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด คาดหุ้นทดสอบแนวต้าน 1,640 จุด ตลาดต่างประเทศบวกแรงหนุนวุฒิสภาฯ มีมติขยายเพดานหนี้สหรัฐออกไปจนถึงสิ้นปีนี้ ลดความเสี่ยงสหรัฐฯ ผิดนัดชำระหนี้ แนะซื้อกลุ่ม Reopening ส่วนหุ้นเด่นแนะนำ CKP-CRC

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ คาดดัชนี SET ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจใน Q4 วางแนวรับดัชนีที่ 1,620 – 1,630 และหากผ่านแนวต้าน 1,640 ได้ มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,660 แนะนำซื้อกลุ่ม Reopening เช่น SCB, KTB/ AOT,AAV,MINT,CENTEL/ CPALL,CPN, CPW / OR, PTG

ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ +0.88% ปริมาณการซื้อขาย 1 แสนล้านบาท ต่างชาติซื้อ 3.1 พันล้านบาท พอร์ตโบรกซื้อ 2.47 พันล้านบาท สถาบันขาย 487 ล้านบาทได้แรงหนุนจากกลุ่มธนาคาร +3.07%, ไฟแนนท์ +2.54%, ค้าปลีก +2.03% เป็นหุ้นกลุ่มได้ประโยชน์จากการเริ่มเปิดเศรษฐกิจวันที่ 1 พ.ย. นี้ และรัฐบาลออก ม.กระตุ้นกำลังซื้อผ่าน ม.33 คนละครึ่งเฟส3, ม.ช่วย SME จ้างงาน, ม.ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้ และเปิดท่องเที่ยวนำร่องอีก 10 จังหวัด ส่งผลให้โมเมนตัมเศรษฐกิจไทยใน Q4 นี้อยู่ในช่วงฟื้นตัว ปัจจัยเสี่ยงต้องระวัง คือ จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นสูงกว่าจำนวนผู้หายป่วย โดยมีการระบาดในพื้นที่ภาคใต้

ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ได้แรงหนุน หลังวุฒิสภาฝั่งพรรครีพับลิกันมีมติให้ขยายเพดานหนี้สหรัฐออกไปจนถึงสิ้นปีนี้ โดยคาดเพิ่มเพดานหนี้อีก 4.8 แสนล้านดอลลาร์ เป็น 28.9 ล้านล้านดอลลาร์จากเดิมชนระดับ Limit แล้วที่ 28.4 ล้านล้านดอลลาร์ ช่วยลดความเสี่ยงสหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ในช่วงกลางเดือนนี้ ส่งผลให้เม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง และ VIX Index ลดลงอยู่ที่ระดับ 19.54 สะท้อนความผันผวนเริ่มลดลง

ส่วนประเด็นข้อพิพาทกับจีนมีแนวโน้มผ่อนคลายขึ้น หลังประธานาธิบดีทั้ง 2 ฝ่ายเตรียมหารือทางออนไลน์ในช่วงปลายปีนี้ ในหลายประเด็น เช่น ข้อตกลงการค้า, ปัญหาไต้หวัน คาดช่วยลดความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ลงได้ ค่ำวันนี้ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ก.ย. คาดเพิ่มขึ้น 475,000 &ส.ค. 235,000 ราย ซึ่งดัชนีสำคัญที่เฟดใช้วัดการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐ

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ CKP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 6.40 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 3Q64 จะเติบโตต่อเนื่อง QoQ, YoY จากปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนน้ำงึม 2 (NN2) และกระแสน้ำโขงผ่านเขื่อนไซยะบุรีเพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล นอกจากนี้ CKP ได้มีการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น XPCL อีก 5% เป็น 42.5% ส่งผลให้ MWe เพิ่มขึ้นเป็น 1 GW รับรู้ตั้งแต่ 3Q64 เป็นต้นไป รวมถึงมี Solar Rooftop 6 โครงการทยอย COD และโรงไฟฟ้า BIC ที่จะกลับมาเดินเครื่องหลังจากปิดซ่อมตามแผน หนุนให้ทั้งปี 64 กำไรมีโอกาสขยับเกิน 2 พันล้านบาท เติบโตขึ้นโดดเด่นเทียบกับปีก่อนที่ 405 ล้านบาท

หุ้น CRC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 38.00 บาท) ปัจจัยบวกจากม.ผ่อนคลายการควบคุมที่ทะยอยเริ่มตั้งแต่ 1 ก.ย.64 การเพิ่มช่องทางการขายใหม่ ๆ ของแพลตฟอร์ม Omnichannel จะช่วยลดปัจจัยกดดันจากการระบาดหนักของโรคใน 3Q21 ได้บางส่วน (ยอดขาย Omnichannel.Food และ Omnichannel.Non-food ในช่วง 2Q21 เติบโตYoY ที่ 169% และ 71% ตามลำดับ)

ขณะที่ 4Q21 จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวหลังจากการกระจายวัคซีนในประเทศไทยสูงขึ้น โดยเฉพาะรายได้ค่าเช่าจะสามารถฟื้นตัวรวดเร็ว สำหรับกลยุทธ์ถัดไปของทางบ. จะหันมาเน้นการขยายตจว.มากขึ้น (จากเดิมเน้นกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองท่องเที่ยว) โดยจะเน้นไปที่กลุ่มสินค้า Hard line(ไทวัสดุ และ B2S) และ กลุ่ม Food (Tops)