UBE หุ้นเติบโตสูง เพิ่มสินค้ามาร์จิ้นสูง

HoonSmart.com>>”อุบล ไบโอ เอทานอล”เข้าเทรดวันแรกราคาต่ำจอง 14% สวนทางปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย เบอร์ 1 ธุรกิจเอทานอล-ส่งออกแป้งมันสำปะหลัง มุ่งสินค้าพรีเมี่ยม-ปลายน้ำ มาร์จิ้นสูง มีลุ้นจบดีลซื้อกิจการ หวังเติบโตเฉลี่ยปีละ 20-30% แผน 5 ปีมุ่ง Food Tech

หุ้นบริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล (UBE) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) วันแรก (30 ก.ย.64) ราคาเปิดที่ 2.28 บาท และมีแรงไล่ซื้อขึ้นไปสูงสุด 2.40 บาทเท่ากับราคา IPO แต่ยืนไม่อยู่ ลงมาปิดที่ระดับ 2.06 บาท ติดลบ 0.34 บาท คิดเป็น 14.17% ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 3,047 ล้านบาท

นายเดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล (UBE) กล่าวว่า มั่นใจใน Performance ของบริษัท อยากให้นักลงทุนเข้าใจตัวธุรกิจ แม้ชื่อบริษัทจะเป็น อุบล ไอโอ เอทานอล แต่ไม่ใช่มีเพียงธุรกิจเอทานอลอย่างเดียว บริษัทมีธุรกิจที่หลากหลาย และมีมาร์จิ้นที่ดี ส่งผลต่อแนวโน้มการเติบโตที่ดี นอกจากนี้ยังนำเงินที่ได้จาก IPO ไปลงทุนต่อยอดธุรกิจให้บริษัทเติบโตต่อไป พร้อมมองหาโอกาสทางธุรกิจ ทั้งการซื้อกิจการหรือร่วมลงทุน ในธุรกิจเกษตรอินทรีย์ คาดว่าจะได้เห็นพัฒนาการที่ดีในปี 2565 โดยนักวิเคราะห์ให้ราคาเป้าหมายสูงกว่าราคา IPO

” หากนักลงทุนได้ศึกษาข้อมูลของบริษัท จะเข้าใจการทำธุรกิจของเรามากขึ้น UBE เริ่มจากการเป็นบริษัทเอทานอล และแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ แนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี  ปัจจุบันได้เพิ่มพอร์ตสินค้าให้เป็นพิเศษมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการผลิตเอทานอลเกรดอุตสาหกรรม พวกเจลแอลกอฮอร์ต่างๆที่เป็นสินค้าในแบรนด์ของตัวเอง และการผลิตแป้งมันออร์แกนิค แป้งฟลาว ทำให้ EBIDA ดีขึ้นมาก ในอดีตธุรกิจส่วนใหญ่อยู่กลางน้ำ ปัจจุบันได้มุ่งเน้นปลายน้ำมากขึ้น ซึ่งจะเริ่มผลิตสินค้าที่เป็นแบรนด์ของเรามากขึ้น”นายเดชพนต์กล่าว

บริษัทวางเป้าหมายการดำเนินงานใน 5 ปีข้างหน้า จะขยายกลุ่ม Food Tech ให้เติบโตมากขึ้น มุ่งเน้นตามเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพ เพราะเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดอาหารเพื่อสุขภาพ บริษัทยังเป็นส่วนเล็กๆ ทำให้สามารถต่อยอดเพื่อสร้างการเติบโตได้อีกมาก ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ 70% และเอทานอลเหลือ 30% ในอนาคต  พอร์ตรายได้มาจากการส่งออก 50% บริษัทเป็นผู้ส่งออกแป้งมันสำปะหลังเป็นอันดับ 1 และเป็นผู้ผลิตเพียงไม่กี่รายในโลกที่สามารถผลิตแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิคที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสินค้าออร์แกนิคสากล ส่งไปสหรัฐอเมริกามากที่สุด เนื่องจากกระแสรักสุขภาพกำลังมาแรง ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าที่เป็นออร์แกนิคมากขึ้น  D/E ปัจจุบันอยู่ที่ 1.6 เท่า และหลัง IPO คาดว่า จะต่ำกว่า 1 เท่า และบริษัทจะเร่งเดินหน้านำเงินที่ได้จาก IPO มาลงทุนเพื่อสร้างexcluการเติบโตต่อไป

ด้านผลงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 รายได้เติบโต 40% และมีกำไรสุทธิ 107 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าทั้งปี 2563 แนวโน้มครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะดีขึ้นจากครึ่งปีแรก ทั้งรายได้และกำไรที่จะเติบโตชัดเจน และจะดีต่อเนื่องไปถึงในปีต่อๆไป คาดหวังว่าแนวโน้ทจะเติบโตเฉลี่ย 20-30% ต่อปี สะท้อนธุรกิจเติบโตมากขึ้น และรับผลดีจากการปรับเปลี่ยนจากธุรกิจกลางน้ำไปสู่ปลายน้ำ  รวมถึงการนำเงิน IPO ไปขยายการลงทุนเพื่อสร้างโอกาสการเติบโต  ทำให้ D/E ลดลงต่ำกว่า 1 เท่า ปัจจุบันอยู่ที่ 1.6 เท่า

บล.ฟินันเซีย ไซรัสคาดกำไร UBE ในปี 2564-2566 เติบโต 190.2%/52.0%/20.7% ได้แรงหนุนจากสินค้าออร์แกนิค รายได้เติบโต 30.1% / +13.1% / +8.5% หลักๆ มาจากธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง อัตรากำไรขั้นต้นและ EBITDA margin เพิ่มขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนธุรกิจแป้งมัน โดยเฉพาะแป้งมันออร์แกนิค ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเชื่อว่าจะยังคุมได้ดี ทำให้อัตรากำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นจาก 2.2% ในปี  2563 เป็น 7.5%ในปี 2566

นอกจากนี้ยังให้มูลค่าเหมาะสมปี 2565 ที่ 3.30 บาท โดยใช้ PE Multiple 26 เท่าสำหรับธุรกิจเอทานอล ให้ premium 30% จากค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังของบริษัทที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกันได้แก่ KSL, KTIS, TAE เนื่องจากความสามารถในการทำกำไรของ UBE ในส่วนของธุรกิจเอทานอลสูงกว่าและอิง P/E 38 เท่าสำหรับธุรกิจแป้งมันสำปะหลังใกล้เคียงค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังของTWPC ซึ่งมีธุรกิจใกล้เคียง และ NRF ซึ่งเร่งขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ