CPANEL คาดรายได้ปี’64 แตะ 350 ลบ. กำไร 3 ปีทำ All Time High

HoonSmart.com>> “ซีแพนเนล”สุดฮอต ราคาเปิดวันแรกพุ่งขึ้น 45% ที่ 8.70 บาท คาดรายได้ปี 64 โตไม่ต่ำกว่า 30-40% แตะระดับ 350 ล้านบาท ธุรกิจอสังหาฯเติบโตดี  มั่นใจครึ่งปีหลังไปได้สวย รอรับรู้ Backlog อีก 228 ล้านบาท จ่อเซ็นงานใหม่ 70 ล้านบาท ส่วนปี 65 มีงานรอรับรู้อีก 500 ล้านบาท นำเงิน IPO คืนเงินกู้ สร้างโรงงานใหม่  คาดเริ่มผลิตปลายปี 66  บล.ฟินันเซีย ไซรัส ให้เป้าหมาย 9 บาท กำไร 3 ปีทำ All Time High

บริษัท ซีแพนเนล (CPANEL) เข้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรก (30ก.ย.2564) หมวดอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (PROPCON)โดยราคาเปิดที่ระดับ  8.70 บาท ปรับตัวขึ้น 45% หรือ 2.70 บาท จากราคาที่เสนอขายหุ้น IPO อยู่ที่ 6 บาท

นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล (CPANEL) เปิดเผยว่า  ถือว่านักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างดี และเชื่อมั่นในตัว CPANEL ตั้งแต่ช่วงการจองซื้อหุ้น ไปจนถึงวันซื้อขายวันแรก  บริษัทจะพยายามเดินหน้าสร้างการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ และในอีก 2-3 ปีข้าง เมื่อมีกำลังการผลิตใหม่  ก็จะเติบโตขึ้นอีกมาก โดยจะรักษาการเป็น Growth Company ไว้ ส่วนการจ่ายปันผล มีนโยบายจ่ายไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ แต่ก็ต้องขอพิจารณาให้เหมาะสมก่อนจ่ายปันผล เนื่องจากการลงทุนก็มีความสำคัญ

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทคาดว่ารายได้อยู่ที่ระดับ 350 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 30-40% จากปีก่อนที่มีรายได้จำนวน 221.16 ล้านบาท เนื่องจากแนวโน้มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างเติบโตดีกว่าปีก่อนที่โดนผลกระทบโควิด-19 ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท สัดส่วนรายได้ประมาณ 80-90% ของรายได้รวม ซึ่งลูกค้าได้เร่งการก่อสร้าง เพื่อส่งมอบงานให้ทัน และผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) ของบริษัทค่อนข้างตอบโจทย์ จากการประหยัดเวลาก่อสร้าง และสะดวกรวดเร็ว อีกทั้งยังได้ประโยชน์ในช่วงภาวะขาดแคลนแรงงานด้วย เนื่องจากผลิตภัณฑ์ ใช้จำนวนแรงงานน้อย ช่วยให้ลูกค้าลดต้นทุนการก่อสร้างอีกด้วย

แนวโน้มในครึ่งปีหลังจะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งแรกที่มีรายได้อยู่ที่ 157.28 ล้านบาท เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งบวก ทำให้ลูกค้าอสังหาริมทรัพย์แนวราบ หันมาใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมากขึ้น จากปัจจัยการขาดแคลนแรงงาน และการเร่งส่งมอบงาน บริษัทมีมูลค่างานตามสัญญาที่ยังไม่ได้ส่งมอบ (Backlog) ณ สิ้นเดือน มิ.ย.2564 อยู่ที่ 1,156.03 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือปีนี้ 228.56 ล้านบาท และปี 2565 คาดว่าจะรับรู้ประมาณ 525.60 ส่วนอีก 401.87 จะรับรู้ภายในปี 2566

นอกจากนี้บริษัทยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่างาน Backlog อย่างต่อเนื่อง  ปัจจุบันมีงานที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญา มูลค่างานประมาณ 70 ล้านบาท คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ในช่วง 1-2 เดือนนี้ อีกทั้งยังมีงานตามสัญญาต่อเนื่องเพิ่มเติมอยู่ตลอด ซึ่งบริษัทพยายามจะขยายตลาดใหม่ๆเพิ่มเติมด้วย โดยจะขยายงานอาคารมากขึ้น ส่วนตลาดต่างประเทศก็ไม่ปิดโอกาส

“ในปี 2565  ถ้าคิดแค่รายได้ที่รับรู้จาก Backlog ก็คาดว่าจะเติบโตประมาณ 25-30% ยังไม่รวมกับงานใหม่ๆที่จะเข้ามาเพิ่มเติมด้วย โดยปกติแล้วบริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30%”นายชาคริตกล่าว

วัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปชำระหนี้สถาบันการเงิน เพื่อลดภาระดอกเบี้ย และนำไปลงทุนก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ในพื้นที่โรงงานเดิมด้วยระบบการผลิต Fully Automated ที่มีกำลังการผลิต 720,000 ตารางเมตรต่อปี หรือ กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัว ใช้เงินลงทุนไม่เกิน 500 ล้านบาท ซึ่งเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 2/2565 คาดการณ์เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในช่วงปลายไตรมาส 4/2566 โดยคาดว่าจะใช้เวลาคืนทุนภายในระยะเวลา 1 ปีหลังเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์

ด้านนายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า CPANEL มีจุดแข็งที่โดดเด่น จากความชำนาญในการทำงาน และผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าเป็นอย่างดี สะท้อนจากผลประกอบการในปี 2564  ที่คาดว่าจะได้เห็นเติบโตขึ้นสู่ระดับ 350 ล้านบาท และยังมีอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิที่โดดเด่น อยู่ที่ 37% และ 11% ตามลำดับ ซึ่งในปี 2565 มียอด Backlog ที่รอรับรู้แล้ว 500 ล้านบาท ส่งผลให้แนวโน้มรายได้มีexcluการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“ หลังการระดมทุน CPANEL จะสามารถสร้างการเติบโตเพิ่มขึ้น จากฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ความพร้อมในการดำเนินธุรกิจอย่างประสิทธิภาพ เพื่อรองรับความต้องการสินค้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจากปัจจัยสนับสนุนในเรื่องต้นทุนเวลา ต้นทุนของผู้ประกอบการ ปัญหาขาดแคลนแรงงาน และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป อีกทั้ง เงินที่ได้จากการระดมทุนส่วนหนึ่ง จะถูกนำไปชำระคืนเงินกู้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินรวมต่อทุน (D/E Ratio) ลดลง จึงเชื่อว่า หุ้น CPANEL จะเป็นหุ้นที่น่าสนใจตัวหนึ่ง” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น CPANEL เปิดเผยว่า ราคาหุ้น CPANEL เปิดวันแรกที่ 8.70% ให้ผลตอบแทนถึง 45%  เป็นที่น่าพอใจ

บล.ฟินันเซียไซรัสออกบทวิเคราะห์ CPANEL  ให้มูลค่าเหมาะสมปี2565 ที่ 9 บาท คาดการณ์กำไร 3 ปี ข้างหน้าทำ All Time High โดยในปีนี้ฟื้นตัวแรง 174% เทียบกับปีก่อน ก่อนจะเร่งขึ้นสูง 98% ในปี 2565 โต 11% ในปี 2566 เนื่องจากรายได้ฟื้นตัวหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย รวมถึงมีงานที่รอส่งมอบ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 อยู่ 1,160 ล้านบาท ซึ่งทยอยรับรู้ในครึ่งหลังของปีนี้ถึงปี 2566  ช่วยจำกัด Downside  รวมถึง รับประโยชน์จาก Economy of scale หนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นเร่งขึ้นตามทิศทางรายได้ และต้นทุนทางการเงินสุทธิลดลงหลัง นำเงินไปชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน

อ่านข่าว

CPANEL ดีเดย์ซื้อขายตลาด mai 30 ก.ย.นี้