DELTA ดิ่ง ผวาหลุด SET 50 ชวนซื้อ HANA-KCE

HoonSmart.com>>เดลต้าฯ กดดันตลาด -7 จุด ราคาดิ่ง 2 วันเฉียด 200 บาท นักลงทุนกลัวตลาดกลับลำใช้ฟรีโพลทใหม่ ไล่หุ้น DELTA พ้นการคำนวนดัชนี SET 50 นักลงทุนสถาบันต้องขายลดพอร์ต นักวิเคราะห์ระบุราคาแพง P/E สูงกว่า 100 เท่า บล.ดีบีเอสฯ แนะขาย ปีหน้ากำไรโตใกล้เคียงกลุ่มอิเล็กทรอกนิกส์ เชียร์ซื้อ”ฮานาฯ-เคซีอี”ดีกว่า บล.ฟินันเซียไซรัส คาดเกณฑ์ใหม่ บวกต่อกลุ่มธนาคาร BBL, SCB, KBANK ส่วน Reopening หนุนหุ้น SCC, CPALL, BDMS

วันที่ 14 ก.ย. 2564 นักลงทุนยังคงเทกระจาดหุ้นบริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA ปิดตลาดทรุดลงหนักถึง 10.74% ที่ระดับ 582 บาท นับเป็นการดิ่งลงแรง 2 วัน เกือบ 200 บาท หรือประมาณ 23% หลังจากวิ่งมาเกือบ 200 บาทในช่วง 8 วันทำการจากระดับ 584 บาท เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา

นาย เผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ ประธานสายธุรกิจรายย่อย บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้หุ้นเดลต้าฯร่วงลงแรง อาจจะเกิดจากนักลงทุนเริ่มมีความกังวลว่าหุ้น DELTA จะมีโอกาสหลุดจากการคำนวณดัชนี SET 50 หากตลาดหลักทรัพย์จะกลับมาปรับเกณฑ์การใช้ฟรีโฟสทในการคำนวณหุ้นเข้า SET 50 และ SET100 รอบใหม่

นอกจากนี้ DELTA ซื้อขายที่ P/E สูง สะท้อนราคาแพง และภาพใหญ่ของกลุ่มอิเล็กทรอกนิกส์ ในตลาดหุ้นแนสแด็ก ปรับตัวลง และจีนควบคุมการทำธุรกิจของธุรกิจกลุ่มนี้

นางอาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดกังวลมานานเรื่องตลาดหลักทรัพย์กำลังพิจารณานำฟรีโพสทเข้ามาคำนวณหุ้นที่เข้า SET 50  และ SET 100 เดิมคาดว่าจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. เฟส 1 แต่มีคนคัดค้านมาก จึงมีการพิจารณามาตรการใหม่ในการดูแลหุ้นผิดปกติ ซึ่งไม่ทราบว่าจะหยิบยกเรื่องฟรีโฟลทพิจารณารอบใหม่เร็วๆนี้ หรือไม่ เพราะ DELTA ทำให้ภาพดัชนีผิดเพี้ยนไปมาก ตามปกติหากจะมีการเพิ่ม หรือนำหุ้นออกจากการคำนวณดัชนี ซึ่งจะมีผลวันที่ 1 ม.ค.2565 จะมีการประกาศรายชื่อประมาณเดือนธ.ค.นี้ แต่หากเปลี่ยนเกณฑ์เฉพาะ อาจจะประกาศเร็วขึ้นก็เป็นไปได้

สำหรับหุ้น DELTA  บล.ดีบีเอสฯแนะนำ”ขาย” ให้มูลค่าเหมาะสม 304 บาท เพราะปัจจุบันซื้อขายที่ P/E 120 เท่า เทียบกับหุ้นอิเล็กทรอนิกส์ตัวอื่น เช่น  HANA  เทรดที่ 23 เท่า และ KCE 37 เท่า

นอกจากนี้แนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังก็ไม่โดดเด่นมากนัก  แม้ว่ามีออเดอร์มาก แต่การส่งมอบสินค้าที่จะล่าช้า จากการระบาดของโควิดระลอกที่ 4 และตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน บริษัทจึงมีการส่งออกทางอากาศบางส่วน ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น มาร์จิ้นแคบๆ ลง

ส่วนแนวโน้มในปี 2565 คาดว่ากำไรจะเติบโตประมาณ 35-40% ใกล้เคียงกับ HANA และ KCE   ซึ่งทำให้ P/E ของ DELTA ลดลงเหลือ 86 เท่า แต่ก็ยังสูงกว่าของ HANA ที่ 17 เท่า  และ KCE 26 เท่า

บล.ฟินันเซีย ไซรัส รายงานว่า ดัชนีปรับตัวลงทดสอบใกล้เคียงแนวรับหลัก 1,620 จุดอีกครั้งก่อนที่จะเริ่มรีบาวด์ขึ้นได้บ้าง ถ่วงโดย DELTA ,MAKRO,INTUCH ที่ถูกเทขายหนักหลังขึ้นแรงต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า ส่วนประเด็นกระแสข่าวเรื่องการปรับเกณฑ์ฟรีโฟลท ในการคำนวณ SET50/SET100 หุ้นที่จะได้ประโยชน์คือกลุ่มธนาคาร ได้แก่ BBL, SCB, KBANK ส่วนหุ้นขนาดใหญ่อื่นได้แก่ SCC, CPALL, BDMS ซึ่งเป็นกลุ่มที่คาดว่าจะฟื้นตัวตามการ Reopening

ด้านตลาดหุ้นไหลลงแรง ดัชนีปิดที่ระดับ 1,623.84 จุด ติดลบ -9.92 จุดหรือ -0.61% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 84,176.04 ล้านบาท โดยนักลงทุนไทยขายกลุ่มเดียว 1,049 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนอีก 3 กลุ่มซื้อเล็กน้อย 200-400 ล้านบาท

ตลาดที่ปรับตัวลง กระจุกในหุ้นใหญ่ไม่กี่ตัว นำโดย DELTA ทรุดลง  70 บาทมีผลต่อดัชนี ติดลบ 7 จุด INTUCH ร่วง 5.76%หรือ 4.75 บาท ปิดที่ 77.75 บาท ADVANC ติดลบ 1.81% ปิดที่ 190 บาท และ MAKRO ดิ่ง 5.78% ปิดที่ 53 บาท  นอกจากนี้ตลาดยังกังวลเรื่องธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะลด QE  โดยติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐคืนนี้ หากออกมาสูงอาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจปรับลดการซื้อพันธบัตร ในการประชุมวันที่ 21-22 ก.ยนี้  อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นมากเป็นผลดีต่อหุ้นพลังงาน โดย PTTEP ช่วยพยุงตลาด ราคาปิดที่ 112.50  บาทบวก 4.50 บาทหรือ 4.17%