HoonSmart.com>>”เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์”เปิดผลงานสวย 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 153 ล้านบาท ทะยาน 161% รายได้แผ่วเจอโควิดกระทบธุรกิจโทรคมนาคม ลั่นกำไรยังคงแข็งแกร่ง พลังงานในฐานะผู้จำหน่ายก๊าซแอลพีจีและน้ำมันยังดี สาธารณูปโภคเริ่มเห็นผล ไตรมาส 4 คว้างานบำบัดน้ำฟาร์มกุ้งให้ CPF เฟส 4 เริ่มจำหน่ายน้ำประปาในภูเก็ต
บริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (7UP) เปิดผลประกอบการในไตรมาส 2/2564 มีกำไรสุทธิ 50.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.88 ล้านบาท เติบโต 97.45% จากระยะเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 25.53 ล้านบาท รวม 6 เดือนปีนี้มีกำไรสุทธิ 153.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90.36 ล้านบาทหรือ 142.61% จากที่มีกำไร 63.36 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายมนต์เทพ มะเปี่ยม รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (7UP) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/2564 ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซแอลพีจีและน้ำมัน มีกำไรขั้นต้นจำนวน 37.42 ล้านบาท ตามด้วยธุรกิจสาธารณูปโภค และกลุ่มธุรกิจพลังงานทางเลือก
ส่วน 6 เดือนแรก มีรายได้จำนวน 407.92 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 34.93% โดยหลักเนื่องจากกลุ่มธุรกิจวิทยุสื่อสารโทรคมนาคมและ Internet of Thing(IoT) ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มาตรการล็อกดาวน์ ทำให้โครงการล่าช้ากว่ากำหนด รวมถึงการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างด้วย
“ ในปี 2564 รายได้ อาจได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และครึ่งปีหลัง จะไม่ได้รับรู้รายได้ของกลุ่มโทรคมนาคม หลังขายเงินลงทุนออกไป แต่ไม่ได้กระทบต่อความสามารถในการทำกำไร เพราะธุรกิจดังกล่าวมีสัดส่วนที่ต่ำ ผลกำไรหลักมาจากธุรกิจจำหน่ายก๊าซแอลพีจีและน้ำมัน รวมถึงธุรกิจสาธารณูปโภคเริ่มมีน้ำหนักในการสร้างรายได้และผลกำไรเพิ่มขึ้น”นายมนต์เทพ กล่าวเ
ส่วนในระยะที่ผ่านมาราคาหุ้น 7 UP gคลื่อนไหวผันผวนต่างไปจากสภาพปกติ ก่อให้เกิดความกังวลต่อพื้นฐานธุรกิจ และการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ทางบริษัทฯขอปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้น(ปิดบุ๊ค)ไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จากข้อมูลล่าสุดช่วงต้นเดือนส.ค. 2564 ไม่พบการเปลี่ยนแปลงอันดับการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก
“ฝ่ายบริหารมีหน้าที่ในการบริหารธุรกิจ เพื่อมุ่งหวังสร้างผลประกอบการที่ดี และไม่ทราบเหตุผลของความเคลื่อนไหวราคาหุ้น เพราะขึ้นอยู่กับมุมมองการลงทุนของผู้ถือหุ้น แต่ฝ่ายบริหารไม่ได้เพิกเฉย เมื่อเห็นราคาหุ้นของบริษัทฯเปลี่ยนแปลงผิดไปจากสภาพปกติ ได้ขอปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้น และไม่พบการเปลี่ยนแปลงของอันดับการถือหุ้นของผู้ถือหุ้น แต่ทั้งนี้อยากจะย้ำเตือนผู้ถือหุ้นให้พิจารณาการลงทุนจากพื้นฐานธุรกิจเป็นสำคัญ” นายมนต์เทพ กล่าว
บริษัทฯยังคงดำเนินกิจการไปตามปกติ ยึดนโยบายการมุ่งเข้าสู่ธุรกิจสาธารณูปโภคทางด้านน้ำ เนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นธุรกิจที่จะสร้างการเติบโตให้กับบริษัทในอนาคตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ส่วนธุรกิจบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อม ผ่านบริษัท แซม วอเตอร์ซัพพลาย ปัจจุบันรับผลิตน้ำสะอาดให้กับฟาร์มกุ้งของบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) รวม 3 เฟส กำลังการผลิตรวม 124,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และอยู่ในขั้นตอนดำเนินการเฟสที่ 4 กำลังการผลิตเพิ่มอีก 100,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้และส่งมอบกลางปี 2565 จะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเท่าตัว และคาดว่าจะสร้างรายได้ให้บริษัท 250 ล้านบาทต่อปี ซึ่งยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก เนื่องจาก CPF มีความต้องการน้ำสะอาดสูงถึง 1 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน และยังไม่นับรวมโอกาสการขยายไปยังตลาดต่างประเทศอีกด้วย
ขณะที่ธุรกิจจำหน่ายน้ำประปา ภายหลังการซื้อหุ้นใน โกลด์ ชอร์ส เพิ่มเป็น 81% เป็นผลสำเร็จ ซึ่งดำเนินธุรกิจพัฒนาระบบสาธารณูปโภคด้านการประปา คาดว่าจะเริ่มขายน้ำประปาในจังหวัดภูเก็ตได้ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ เบื้องต้น 40,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
ณ สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 2564 บริษัทฯมีส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 2,733.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 597.59 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 27.98% จากสิ้นปี 2563 และผลประกอบการที่ดีต่อเนื่อง ทำให้ขาดทุนสะสมลดลงจำนวน 152.73 ล้านบาท