ส่องกองทุนหุ้นครึ่งปี 64 “เวียดนาม” แจกกำไรสูงสุด

HoonSmart.com>> ส่องกองทุนหุ้นครึ่งปีแรกปี 64 เงินไหลเข้า 1.6 แสนล้านบาท หุ้นจีน-หุ้นโลกยังฮอต ด้านผลตอบแทน “กองทุนหุ้นเวียดนาม” แชมป์สูงสุด รองลงมากองทุนหุ้นไทยขนาดกลางและเล็ก กองทุนหุ้นเอเชีย แปซิฟิก ด้าน “กองทุนพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ ชนิดสะสมมูลค่า” สร้างผลตอบแทนสูงสุดครึ่งปี 49.69% รองลงมา “กรุงศรีไทยสมอล-มิดแคปอิควิตี้” 41.10%


น.ส.ชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในรอบครึ่งปี 2564 กองทุนรวมตราสารทุนมีมูลค่าทรัพย์สินรวม 1.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.2% จากไตรมาสก่อนหน้า หรือสูงกว่าเดือนธ.ค.2563 ราว 20% โดยในไตรมาส 2/2564 มีเงินไหลเข้ากองทุนรวมตราสารทุน 2.9 หมื่นล้านบาท รวมครึ่งปีแรกเงินไหลเข้าสุทธิราว 1.6 แสนล้านบาท

ด้านกองทุนรวมตราสารหนี้มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.6 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% จากไตรมาสแรก โดยในไตรมาสล่าสุดมีเงินไหลเข้าสุทธิ 6.6 หมื่นล้านบาท แต่ในไตรมาสแรกเป็นเงินไหลออกเกือบ 3 หมื่นล้านบาท ทำให้ในรอบครึ่งปีแรกเป็นเงินไหลเข้าสุทธิ 3.6 หมื่นล้านบาท

“จากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของมูลค่าทรัพย์สินกองทุนตราสารทุน ทำให้มีมูลค่าใกล้เคียงกับกองทุนรวมตราสารหนี้ หรือมีส่วนต่างราว 6 หมื่นล้านบาท ประกอบกับผู้ลงทุนยังให้ความสนใจการลงทุนตราสารทุน โดยเฉพาะกองทุนหุ้นต่างประเทศอาจทำให้กองทุนตราสารทุนเป็นสัดส่วนหลักของอุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยได้ภายในปีนี้”น.ส.ชญานี กล่าว

กองทุนกลุ่ม China Equity และ Global Equity เติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 15.2% และ 14.4% ตามลำดับ แต่เงินไหลเข้ามีการชะลอตัวลงในไตรมาสล่าสุด กองทุนหุ้นจีนมีเงินไหลเข้า 1.6 หมื่นล้านบาท จากไตรมาสแรกมีเงินไหลเข้ากว่า 5 หมื่นล้านบาท เช่นเดียวกับกองทุนหุ้นทั่วโลกมีเงินไหลเข้าสุทธิ 7.6 พันล้านบาท เทียบกับไตรมาสแรกที่มีเงินไหลเข้ากว่า 4 หมื่นล้านบาท โดยรวม 2 กลุ่มนี้ยังคงเป็นกลุ่มที่มีเงินไหลเข้าสูงสุดรอบครึ่งปีที่ 7.1 และ 5.1 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ

ด้านกองทุนกลุ่ม Global Equity ยังมีการเติบโตต่อเนื่องเช่นกัน โดยมีมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ 1.8 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.4% จากไตรมาสแรกและ 55.5% จากสิ้นปี 2563 มีเงินไหลเข้าสุทธิรวม 5.1 หมื่นล้านบาทสำหรับครึ่งปีแรก และ 7.6 พันล้านบาทในไตรมาสล่าสุด กองทุน TMB Global Quality Growth ยังเป็นกองทุนขนาดใหญ่ที่สุดของกลุ่มที่มูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท และมีเงินไหลเข้าสุทธิสูงสุดในไตรมาสที่สองของปี 2.9 พันล้านบาท อย่างไรก็ดีกองทุน ONE Ultimate Global Growth RA มีเงินไหลเข้าสุทธิสูงสุดรอบครึ่งปีแรกรวม 6.4 พันล้านบาท และเป็นกองทุนขนาดใหญ่ที่สุดอันดับสอง

ขณะที่กองทุนหุ้นไทย (ไม่รวม LTF RMF SSF) มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 2.3 แสนล้านบาท ลดลง 2.9% จากไตรมาสแรกแต่ยังสูงกว่าสิ้นปี 2563 อยู่ 2.0% หากดูในรายกลุ่มจะพบว่ากลุ่มกองทุนหุ้นขนาดใหญ่ (Equity Large-Cap) ที่เป็นกลุ่มหลักมีมูลค่าทรัพยสินสุทธิลดลง 3.7% จากไตรมาสแรก ในขณะที่กลุ่มหุ้นขนาดกลาง-เล็กมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเติบโตที่ 5.2% ทำให้กองทุนหุ้นขนาดกลาง-เล็กมีการเติบโตรอบ 6 เดือนที่ 10.4%

ด้านเม็ดเงินกองทุนหุ้นไทย (ไม่รวม LTF RMF SSF) ยังไหลออกที่ 1.5 พันล้านบาท (ในจำนวนนี้เป็นเงินไหลออกสุทธิจากกองทุนหุ้นขนาดใหญ่ 1.3 พันล้านบาท) หากมองย้อนกลับไปไตรมาสแรกที่มีเงินไหลออกสุทธิ 1.3 หมื่นล้านบาท จะพบว่าเป็นการไหลออกต่อเนื่อง รวมครึ่งปีแรกเป็นเงินไหลออกสุทธิรวมราว 1.4 หมื่นล้านบาท

กองทุนรวมหุ้นขนาดใหญ่ (Equity Large-Cap) มีมูลค่าทรัพย์สินลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า 3.4% แต่เพิ่มขึ้นจากมิถุนายนปี 2563 ที่ 2.9% โดยในไตรมาสล่าสุดมีเงินไหลออกสุทธิ 6.1 พันล้านบาท รวมครึ่งปีแรกเงินไหลออกจากกลุ่มนี้ 2.5 หมื่นล้านบาท มูลค่าทรัพย์สินล่าสุดสูงเป็นอันดับสองที่ 6.4 แสนล้านบาท หรือต่ำกว่ากองทุน Money Market เล็กน้อย

ขณะเดียวกันกองทุนหุ้นขนาดกลาง-เล็ก (Equity Small/Mid-Cap) มีมูลค่าทรัพย์สิน 5.3 หมื่นล้านบาท (อันดับที่ 17 ของอุตสาหกรรม) แม้จะมีผลตอบแทนที่ดีกว่ากองทุนหุ้นขนาดใหญ่ค่อนข้างมาก แต่ก็มีทิศทางเงินไหลออกเช่นกัน โดยในไตรมาสล่าสุดมีเงินไหลออกเล็กน้อยราว 17 ล้านบาท รวม 6 เดือนไหลออกสุทธิ 1.8 พันล้านบาท

เงินไหลออกกองหุ้นไทย “บลจ.ไทยพาณิชย์-บัวหลวง” สูงสุด

ในรอบครึ่งปีแรกบลจ.หลายแห่งยังมีเงินไหลออกสุทธิจากกองทุนหุ้นไทย (ไม่รวม LTF RMF SSF) นำโดยบลจ.ไทยพาณิชย์มีเงินไหลออกสุทธิ 4.6 พันล้านบาท โดยไตรมาสล่าสุดเป็นเงินไหลออก 8 ร้อยกว่าล้านบาท กองทุน SCB SET Index (Acc) มีเงินไหลออกสูงสุดครึ่งปีรวม 1.2 พันล้านบาท อย่างไรก็ดีบลจ.ไทยพาณิชย์ยังคงมีมูลค่าทรัพย์สินสูงสุดที่ 3.9 หมื่นล้านบาท หรือเท่ากับส่วนแบ่งตลาดที่ 17%


กองทุนจากบลจ.บัวหลวงมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิมากอันดับสองที่สัดส่วน 15% ของตลาดด้วยมูลค่า 3.6 หมื่นล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกมีเงินไหลออกสุทธิเกือบ 3 พันล้านบาท เป็นเงินไหลออกจากกองทุนบัวหลวงทศพลสูงสุดราว 1.5 พันล้านบาทหรือมากที่สุดในรอบครึ่งปีแรกสำหรับกองทุนประเภทนี้ บลจ.กสิกรไทย มีเงินไหลออกสุทธิในครึ่งปีแรกรวม 1.3 พันล้านบาท มีมูลค่าทรัพย์สินเกือบ 2.7 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 12% ของตลาด รวม 3 บลจ.แรกมีส่วนแบ่งตลาดรวม 44%

กองทุน TISCO Strategic A เป็นกองทุนที่มีเงินไหลเข้าสุทธิสูงสุดในรอบครึ่งปีแรก หรือรวม 1.3 พันล้านบาทและเป็นเพียงกองทุนเดียวที่มีเงินไหลเข้าสูงกว่า 1 พันล้านบาท โดยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิล่าสุดอยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท ให้ผลตอบแทนรอบ 1 ปีที่ 52.3% และสะสมตั้งแต่ต้นปีที่ 23.0%

ด้านผลตอบแทนเฉลี่ยกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในหุ้น อ้างอิงข้อมูลสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) ผลตอบแทนเฉลี่ยของกองทุนหุ้นเวียดนามทำได้สูงสุดเมื่อเทียบกองทุนหุ้นอื่นๆ โดยกองทุนเปิดพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ ชนิดสะสมมูลค่า (PRINCIPAL VNEQ-A) ผลตอบแทนสูงสุด 49.69% เมื่อเทียบกองทุนหุ้นทุกประเภท

อย่างไรก็ตาม หากอิงการจัดกลุ่มของมอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ซ (ประเทศไทย) ในรอบครึ่งแรกของปี สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2564 พบว่า กองทุนหุ้นไทยขนาดกลางและเล็ก ผลตอบแทนเฉลี่ย 21.30% รองลงมากองทุนหุ้นยุโรป ผลตอบแทนเฉลี่ย 15.70% กองทุนหุ้นอินเดีย ผลตอบแทนเฉลี่ย 14.80% กองทุนหุ้นสหรัฐ ผลตอบแทนเฉลี่ย 14.80% กองทุนหุ้นเอเชีย แปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น ผลตอบแทนเฉลี่ย 12.00%

กองทุนหุ้นไทยขนาดใหญ่ ผลตอบแทนเฉลี่ย 10.60% กองทุนหุ้นทั่วโลกผลตอบแทนเฉลี่ย 10.10% กองทุนหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลก ผลตอบแทนเฉลี่ย 9.60% กองทุนหุ้นตลาดเกิดใหม่ผลตอบแทนเฉลี่ย 8.60% กองทุนหุ้นอาเซียนผลตอบแทนเฉลี่ย 7.60% กองทุนหุ้นญี่ปุ่นผลตอบแทนเฉลี่ย 6.10% กองทุนหุ้นโกลบอลเฮลท์แคร์ผลตอบแทนเฉลี่ย 6.00% และกองทุนหุ้นจีนผลตอบแทนเฉลี่ย 3.40%

 
 
 
อ่านข่าวอื่นๆ
ครึ่งปีเงินไหลเข้ากองทุน 9.3 หมื่นลบ. แห่ลงทุนกองหุ้นจีนสูงสุด 7 หมื่นลบ.
ส่องบลจ.ช่วงโควิด “กสิกร” ยืนหนึ่ง – KTAM โตแรง “ไทยพาณิชย์” NAV หดกว่า 1 แสนลบ.