บลูบิคเชื่อ “AI Transformation” หนุนรายได้บริษัทเพิ่ม 10 – 50%

HoonSmart.com>>บลูบิค แนะองค์กรเร่งทำ “AI Transformation” ปลดล็อคศักยภาพ – เพิ่มมูลค่าธุรกิจด้วยพลังปัญญาประดิษฐ์ เชื่อสร้างอัตราการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้น 10 – 50%

นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป (Bluebik) เปิดเผยว่า ปัจจุบันหลายธุรกิจหันมาให้ความสำคัญกับการทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) ซึ่งมีทั้งเรื่องการวางระบบและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับการทำธุรกิจบนโลกดิจิทัล พร้อมทั้งต่อยอดสร้างโมเดลธุรกิจใหม่เพื่อขยายแหล่งรายได้และเพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้าทั้งในแง่ฟังก์ชันและประสบการณ์การใช้งาน

แต่สิ่งเหล่านี้จะไม่ใช่ข้อได้เปรียบอีกต่อไปในอนาคตเมื่อทุกองค์กรสามารถทรานส์ฟอร์มตนเองได้สำเร็จ ทำให้ธุรกิจที่ต้องการก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของกลุ่มอุตสาหกรรม นับจากนี้ต้องเริ่มสร้างความแตกต่างด้วยการนำปัญญาประดิษฐ์ที่มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์และตัดสินใจได้ดีกว่ามนุษย์มายกระดับกระบวนการทำงานที่มีดิจิทัลเป็นพื้นฐาน (AI Transformation)

ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูลตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูล (Data Collection) การทำความสะอาดและกำจัดข้อมูลที่ไม่จำเป็น (Data Cleansing) และการแปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลพร้อมสำหรับการใช้งาน (Data Digitization) เพื่อช่วยวางกลไกของระบบควบคุมอัตโนมัติ (Automation) ภายในองค์กรให้มีความฉลาดและเฉียบคมมากขึ้น

การทำ AI Transformation นั้นมีความซับซ้อนและจำเป็นต้องใช้บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ดังนั้นเพื่อเตรียมความพร้อมให้องค์กรธุรกิจ บลูบิคสามารถพิจารณาแนวทางเพื่อให้การทำ AI Transformation ให้ประสบความสำเร็จผ่านบริการ ดังนี้

1. ออกแบบยุทธศาสตร์ (Strategic Planning) ในการนำปัญญาประดิษฐ์ไปประยุกต์ใช้อย่างสอดคล้องกับกลยุทธ์ธุรกิจ
2. ขับเคลื่อนแผนการดำเนินงานด้านปัญญาประดิษฐ์อย่างมีกลยุทธ์ (Strategic Implementation) จนสำเร็จลุล่วง
3. ปรับปรุงและพัฒนาแผนการดำเนินงานด้านปัญญาประดิษฐ์ เพื่อช่วยสนับสนุนให้องค์กรที่มีกลยุทธ์หรือยุทธศาสตร์ชัดเจน

“การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยปัญญาประดิษฐ์จะช่วยให้องค์กรเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงและมองเห็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ จากประสบการณ์ของบลูบิคที่ได้เข้าไปช่วยขับเคลื่อนแผนงานด้านปัญญาประดิษฐ์ให้กับองค์กรต่างๆ ทั้งระบบงานหน้าบ้าน (Front-office) และระบบงานหลังบ้าน (Back-office) พบว่าหลายองค์กรมีอัตราการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 10 – 50% และสามารถลดต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีนัยสำคัญ จนนำมาซึ่งผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่ยอดเยี่ยม” นายพชร ทิ้งท้าย