BGRIM โกยกำไร 688 ล้าน แจกปันผล 15 สต.

BGRIM กำไรจากการดำเนินงานพุ่ง 34% ไตรมาส 2 ไม่รวมผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยน “ปรียนาถ“รุกหนัก ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมลงทุนเวียดนามเพิ่มอีก 257 เมกะวัตต์ เตรียมเปิดข่าวดีโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในต่างประเทศอีก 2-3 ดีล

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/2561 บริษัทมีกำไรสุทธิ 215 ล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิ 420 ล้านบาท รวมครึ่งปีนี้ กำไรสุทธิ 937 ล้านบาท ขณะที่ระยะเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,099 ล้านบาท หากไม่รวมขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นของเงินบาทที่อ่อนค่าลงบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 688 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 34 % จากไตรมาสก่อน ส่งผลให้ 6 เดือนแรกของปี 2561 บริษัทมีกำไรสุทธิจากผลการดำเนินงาน 1,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 37.3%

กำไรจากการดำเนินงานที่เติบโตมาก มีรายได้จากการขายและการให้บริการจำนวน 8,805 ล้านบาท จากการขายไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้า ABPR3 ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในวันที่ 1 ก.พ. 2561 ทำให้รับรู้รายได้เต็มไตรมาสนี้ และจ่ายไฟฟ้าในโรงไฟฟ้า ABPR4 กำลังการผลิต 133 เมกะวัตต์ ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ในวันที่ 1 มิ.ย.2561 และจากความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าเดิม ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 1,912 เมกะวัตต์

” กำไรสุทธิเป็นตัวเลขตามมาตรฐานทางบัญชี ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและกระแสเงินสด”นางปรียนาถกล่าว

ทางด้านคณะกรรมการบริษัทฯ(บอร์ด)มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในอัตราหุ้นละ 15 สตางค์ โดยจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีชื่อในวันที่ 24 ส.ค. 2561 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 7 ก.ย.2561

นอกจากนี้ บอร์ดบริษัทยังมีมติอนุมัติลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น 80% ในโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในประเทศเวียดนาม กำลังการผลิตติดตั้ง 257 เมกะวัตต์ (กำลังการผลิตตามสัญญา 214 เมกะวัตต์) กับกลุ่มบริษัท Truong Thanh Viet Nam Group Joint Stock Company (TTVN) ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่มีชื่อเสียงในประเทศเวียดนาม โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างกระบวนการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะเวลา 20 ปี กับการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) โดยมีอัตราขายไฟฟ้า 9.35 ดอลลาร์เซนต์ต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง โดยจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในเดือนมิ.ย. 2562

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าธุรกิจตามแผนในปี 2561 ตั้งเป้ากำลังการผลิตเติบโตไม่น้อยกว่า 25% จากปีก่อนที่ 1,646 เมกะวัตต์ มาที่ 2,091 เมกะวัตต์ จากการเปิดดำเนินการของโรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 445 เมกะวัตต์ ครึ่งปีแรกเปิดดำเนินการไปแล้ว 2 แห่ง ส่วนช่วงที่เหลือของปี โรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 5 กำลังการผลิต 133 เมกะวัตต์ จะเปิดดำเนินการ รวมถึง โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 7 โครงการ กำลังการผลิตรวม 31 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 1 โครงการในสปป. ลาว กำลังการผลิต 15 เมกะวัตต์

สำหรับโครงการลงทุนอื่นๆ นอกจากการซื้อหุ้นเพิ่มจาก 49% เป็น 100% ของโครงการ BGYSP ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในประเทศไทย กำลังการผลิตรวม 60 เมกะวัตต์ ในไตรมาสที่ 3 และการซื้อหุ้น 55% ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนาม กำลังการผลิตรวม 420 เมกะวัตต์ บริษัทยังเตรียมประกาศข่าวดีในการลงทุนเพิ่ม ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในต่างประเทศอีก 2-3 โครงการเร็วๆ นี้