“อินโดรามา เวนเจอร์ส” คาดรายได้ปีนี้แตะ 3.5 แสนล้านบาท หลังรับรู้รายได้จากธุรกิจที่ซื้อเข้ามาใหม่ พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์ Core EBITDA ปี 62 แตะ 1,750 ล้านเหรียญสหรัฐ
นายดีลิป กุมาร์ อากาวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจ PET และวัตถุดิบ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ 1.1-1.15 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3.52-3.68 แสนล้านบาท ส่วนครึ่งหลังของปีนี้คาดว่าบริษัทจะมีรายได้ระหว่าง 6,500-7,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากรับรู้รายได้เพิ่มจากเข้าซื้อโรงงานผลิต PET ในบราซิลและอียิปต์ รวมถึงโรงงานอื่นๆในโปรตุเกส และฝรั่งเศส
“ครึ่งปีแรกเรามีรายได้ 5,500 ล้านเหรียญสหรัฐ และครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 6,500-7,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะทำให้รายได้ปีนี้ของ IVL เป็นไปตามเป้าหมายที่ 1.1-1.15 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ”นายดีลิป กุมาร์ระบุ
นอกจากนี้ จากผลการดำเนินธุรกิจช่วงครึ่งปีแรกที่เติบโตแข็งแกร่ง และทิศทางธุรกิจในครึ่งปีหลังที่จะเติบโตต่อเนื่อง ทำให้ IVL ปรับเพิ่มประมาณการณ์กำไรหลักก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (Core EBITDA) ปี 2562 เป็น 1,750 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิม 1,456 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 75% เทียบกับปี 2560 ที่ Core EBITDA อยู่ที่ 1,004 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่กำลังผลิตจะเพิ่มจาก 9.6 ล้านตันเป็น 13 ล้านตัน
นายดีลิป กุมาร์ กล่าวว่า หลังจาก IVL เข้าซื้อกิจการ 6 แห่ง ตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้ IVL ยังไม่มีดีลใหม่ๆเพิ่มเติม โดยอยู่ระหว่างการศึกษา ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีเงินสดที่พร้อมใช้สำหรับการลงทุนซื้อกิจการประมาณ 5,000-6,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทอยู่ที่ 1 ต่อ 1
สำหรับกิจการ 6 แห่งที่ IVL ซื้อเข้ามาแล้วในปีนี้ ได้แก่ โรงงานผลิต PET จำนวน 2 แห่งในบราซิลและอียิปต์ กำลังการผลิตรวม 1.1 ล้านตัน ,บริษัท Avgol ซึ่งผลิตสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอนามัยส่วนบุคคล ,บริษัท Kordarna ผู้นำในอุตสาหกรรมยางในยุโรปและทั่วโลก ,บริษัท Medco ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ชั้นนำในอียิปต์ และล่าสุดบริษัท Sorepla ซึ่งอยู่ในธุรกิจรีไซเคิลในฝรั่งเศส
นายดีลิป กุมาร์ กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยจะอยู่ที่ 75-80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกที่ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 73-74 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล