GL ขาดทุน Q3/63 กว่า 815 ลบ. บุ๊กค่าใช้จ่ายแพ้คดีในสิงคโปร์

HoonSmart.com>> “กรุ๊ปลีส” เปิดงบไตรมาส 3/63 พลิกขาดทุนสุทธิ 815 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายพุ่ง เหตุบันทึกผลขาดทุนจากคำตัดสินของศาลสิงคโปร์กว่า 663 ล้านบาท ด้าน GLF บริษัทย่อยในกัมพูชาบันทึกค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 225 ล้านบาท ด้านผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นงบ ชี้ยังมีความไม่แน่นอนเรื่องคดี ด้านหุ้นกู้แปลงสภาพครบกำหนด 1 ส.ค.64 มูลค่า 4,106 ล้านบาท

บริษัท กรุ๊ปลีส (GL) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2563 พลิกขาดทุนสุทธิ 815.23 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.5344 บาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 9.51 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.0062 บาท

ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 876.98 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.5749 บาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 113.26 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.0742 บาท

บริษัทฯ ชี้แจงขาดทุนไตรมาส 3/63 เนื่องจากมีค่าใช้ในการให้บริการและบริหารในงบการเงินรวม 1,158.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 849.84 ล้านบาท หรือคิดเป็น 275% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน เป็นผลจากบริษัทย่อยในประเทศสิงคโปร์ (GLH) ได้บันทึกผลขาดทุนจากคำตัดสินของศาลสิงคโปร์ในไตรมาส 3 นี้ จำนวน 21.07 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ 0.13 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 663.55 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทย่อยในกัมพูชา (GLF) ได้บันทึกค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสำหรับสินทรัพย์หมุนเวียนอื่นที่เกี่ยวข้องกับเงินจ่ายล่วงหน้าสำหรับสินทรัพย์เพื่อการเช่าซื้อในไตรมาสนี้จำนวน 7.10 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 224.63 ล้านบาท) ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการให้บริการและบริหารอื่นๆ ลดลงอีก 38.34 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เกิดจากค่าธรรมเนียมทางกฎหมายเกี่ยวกับคดีความลดลง 12.31 ล้านบาท หรือคิดเป็น 36% เป็นต้น

ด้านรายได้ดอกเบี้ยเช่าซื้อในงบการเงินรวม 329.70 ล้านบาท ลดลง 93.15 ล้านบาทหรือ 22% รายได้ดอกเบี้ยจากสินเชื่อรายย่อยในงบการเงินรวมมีจำนวน 40 ล้านบาท ลดลง 11.56 ล้านบาท หรือ 25% เป็นต้น

ด้านผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเชื่อมั่นและมีข้อสังเกต/เรื่องอื่น เนื่องจากถูกจำกัดขอบเขตโดยสถานการณ์ โดยบริษทั เคพีเอม็จีภูมิไชย สอบบัญชี จำกัด ออกรายงานโดยไม่ได้ให้ข้อสรุปต่อข้อมูลงบการเงิน ณ วันที่ 30 ก.ย.2563 มีหลายรายการที่ทำให้บริษัทเคพีเอ็มจีไม่ให้ข้อสรุป โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ความไม่แน่นอนทางกฎหมาย, บริษัทเคพีเอ็มจียังไม่ได้รับคำอธิบายและหลักฐานที่น่าพอใจและยังมีความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยจะครบกำหนดของหุ้นกู้แปลงสภาพ 1 ส.ค.2564 ประมาณ 4,106 ล้านบาท

GL ระบุว่า บริษัทให้ความสำคัญกับความเห็นของบริษัทเคพีเอ็มจีอย่างมากและตั้งใจจะมห้ความร่วมมือในการตรวจสอบบัญชีปี 2563 และในส่วนที่เกียวกับความไม่แน่นอนในทางกฎหมายนั้น บริษัทแพ้คดีมาสองครั้งเมื่อไม่นานมานี้ แต่ยังคงมีบางคดีที่บริษัทชนะผู้ถือหุ้นกู้แปลงสภาพรายหลัก บริษัทจะยังคงพยายามต่อสู้คดีให้ดีที่สุดต่อไปและในความโชคร้ายของบริษัทที่ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับบริษัทไม่เพียงพอต่อความต้องการของบริษัท เคพีเอ็มจี เนื่องจากมีโควิด-19 และปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการแสดงหลักฐานที่น่าพอใจ แต่ทางบริษัทคาดว่าในระหว่างการตรวจสอบงบการเงินปี 2563 บริษัทจะสามารถดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลและหลักฐานเพิ่มเติมได้ต่อไปจนกว่าจะเป็นที่พอใจแก่ บริษัท เคพีเอ็มจี

ในขณะที่มีหุ้นกู้แปลงสภาพก้อนใหญ่จะครบกำหนด 1 ส.ค.2564 บริษัทยังอยู่ระหว่างการฟ้องร้องดำเนินคดีหลายคดีกับผู้ถือหุ้นกู้แปลงสภาพและบริษัทคาดว่าจะไม่มีการชำระเงินจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ดังนั้นเชื่อว่าในระยะสั้นนี้จะไม่มีปัญหาใดเกิดขึ้น

อ่านข่าว

GL จ่าย JTA 1.1พันล. ชำระค่าเสียหายบางส่วน