HoonSmart.com>>ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยกระดับมาตรการกำกับดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ ใช้เครื่องหมาย P หยุดซื้อขายโดยอัตโนมัติ (Auto Pause) หลักทรัพย์รายตัว เบรค 60 นาที กรณีมีคำสั่งซื้อขายรวมมากกว่า 15% ของทั้งหมด แต่จะใช้ไม่เกิน 1 ครั้ง/วัน/หลักทรัพย์ ดีเดย์ 6 พ.ค.68 เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการจับคู่ซื้อขายที่ผิดปกติและลดความเสี่ยงให้แก่ผู้ลงทุน ด้านดัชนีหุ้นไทยบวก 9.72 จุด หรือ +0.85% ตามภูมิภาค แต่ต่างชาติทิ้งระเบิดมากถึง 2,849.60 ล้านบาท
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเริ่มใช้มาตรการหยุดการซื้อขายโดยอัตโนมัติ (Auto Pause) รายหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการตามแผนที่กำหนดและได้ทยอยดำเนินการไปแล้วในปี 2567 ทั้งนี้ มาตรการ Auto Pause รายหลักทรัพย์ ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้บริษัทหลักทรัพย์และผู้ลงทุนมีเวลาในการตรวจสอบและจัดการคำสั่งซื้อหรือคำสั่งขาย ด้วยการขึ้นเครื่องหมาย Pause (P) กับหลักทรัพย์ที่มีคำสั่งซื้อหรือคำสั่งขายที่สูงกว่าปกติ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการจับคู่การซื้อขายที่ผิดปกติและลดความเสี่ยงให้แก่ผู้ลงทุน
สรุปแนวทางการใช้มาตรการ Auto Pause ดังนี้
- ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะใช้มาตรการ Auto Pause รายหลักทรัพย์ โดยหยุดการซื้อขายโดยอัตโนมัติเป็นเวลา 60 นาที เมื่อพบว่าหลักทรัพย์ใดมีจำนวนรวมของปริมาณคำสั่งซื้อหรือคำสั่งขายของหลักทรัพย์ในทุกระดับราคามากกว่า 15% ของจำนวนหลักทรัพย์จดทะเบียนนั้น ด้วยการขึ้นเครื่องหมาย Pause (P) เป็นเวลา 40 นาที และ Pre-Open เป็นเวลา 20 นาที ก่อนกลับเข้าสู่การจับคู่ซื้อขายตามปกติ
- การใช้มาตรการ Auto Pause จะใช้ไม่เกิน 1 ครั้ง/วัน/หลักทรัพย์ โดยจะใช้กับหุ้นสามัญ, REIT, Property Fund และ Infrastructure Fund ซึ่งเมื่อหลักทรัพย์ใดถูก Auto Pause แล้ว จะมีผลให้หลักทรัพย์อื่นที่ใช้หลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นสินทรัพย์อ้างอิง เช่น Warrant, DW, Single Stock Futures เป็นต้น ถูกหยุดการซื้อขายด้วย ทั้งนี้ ยกเว้นไม่ใช้มาตรการ Auto Pause กับหลักทรัพย์ที่มีเหตุที่อาจทำให้มีปริมาณการซื้อขายสูงกว่าปกติ เช่น หลักทรัพย์ที่เริ่มซื้อขายในวันแรก (New Listing) หลักทรัพย์ที่เปิดให้ซื้อขายชั่วคราวก่อนถูก SP เป็นเวลานานหรือก่อนถูกเพิกถอน เป็นต้น
- ในระหว่างการขึ้นเครื่องหมาย P ผู้ลงทุนยังคงสามารถแก้ไขหรือยกเลิกคำสั่งซื้อขายได้
ทั้งนี้ มาตรการ Auto Pause รายหลักทรัพย์จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป
ทางด้านตลาดหุ้นวันที่ 23 เม.ย. 2568 ความหวังเรื่องสงครามการค้าคลี่คลาย สหรัฐและจีนจะมีการเจรจาร่วมกัน ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งแรงมากกว่า 1,000 จุด มีผลดีต่อเนื่องถึงตลาดภูมิภาค รวมกับตลาดหุ้นไทย ดัชนีปิดที่ระดับ 1,153.77 จุด เพิ่มขึ้น 9.72 จุด หรือ +0.85% มูลค่าซื้อขาย 38,224.25 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างประเทศขายมากถึง 2,849.60 ล้านบาท แลกหมัดสถาบันไทยซื้อสุทธิ 2,321.14 ล้านบาท และนักลงทุนไทยซื้อ 668.18 ล้านบาท
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้บวกได้น้อยกว่าตลาดหุ้นภูมิภาค จากความไม่แน่นอนในหลายเรื่อง แต่ Sentiment ดูดีขึ้น อินเดียจะเป็นประเทศแรกที่เจรจาการค้ากับสหรัฐฯได้ และรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯเริ่มเปิดทางเจรจาการค้ากับจีน แต่ปัจจัยในประเทศยังต้องติดตาม การประชุมกนง.วันที่ 30 เม.ย.นี้ซึ่งมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และกลุ่มธนาคารผลประกอบการไตรมาสแรกออกมาดูไม่ดี ทำให้มีโอกาสถูก Downgrade ต่อได้
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (24 เม.ย.) ตลาดคงจะเคลื่อนไหวไซด์เวย์ เก็งกำไรในกรอบ 1,135-1,175 จุด