TFI ทุ่ม 1 พันลบ. ลงทุนธุรกิจบรรจุภัณฑ์-สิ่งพิมพ์ชนิดอ่อนรับธุรกิจอี-คอมเมิร์ซโต

HoonSmart.com>> บอร์ดไทยฟิลม์อินดัสตรี่ ไฟเขียวลงทุนโครงการธุรกิจบรรจุภัณฑ์-สิ่งพิมพ์ชนิดอ่อน มูลค่า 1,000 ล้านบาท รองรับพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงผู้บริโภคจากการเติบโตธุรกิจ E-Commerce คาดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 65 ตั้งเป้ารายได้ปีแรก 4,000 ล้านบาท กำไรประมาณ 400 ล้านบาท พร้อมวางเป้ารายได้โต 30% ต่อปี ด้านผลงานปี 63 พลิกกำไร 26 ล้านบาท เหตุรายการกลับกำไรจากการด้อยค่าสินทรัพย์และกำไรจากการชำระหนี้หนุน

บริษัท ไทยฟิลม์อินดัสตรี่ (TFI) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 9 ก.พ.2564 มีมติอนุมัติการลงทุนในโครงการธุรกิจบรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์ชนิดอ่อน (Flexible Packaging) ภายใต้โครงสร้างของบริษัทฯ ในปัจจุบัน มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาทซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินสำนักงานใหญ่เนื้อที่ประมาณ 13 ไร่กว่าบนนถนนเทพรัตน์ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ คาดว่าจะเริ่มปรับพื้นที่โรงงานเพื่อรองรับโครงการดังกล่าวได้ภายในไตรมาส 3 และจะติดตั้งเครื่องจักรและดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2565

สำหรับโครงการดังกล่าวเพื่อผลิตและจำหนายบรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์ชนิดอ่อนที่เป็นม้วนเพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภคเป็นหลัก โดยบริษัทจะลงทุนจัดหาเครื่องพิมพ์นำเข้าจากต่างประเทศทั้งระบบ Gravure, CI, Flexo, Lamination เพื่อเพิ่มความหลากหลายของรูปแบบบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบตางๆ คาดว่าจะมีขนาดกำลังผลิตเต็มที่รวมกว่า 600 ล้านตารางเมตรต่อปี ซึ่งคาดว่าจะติดตั้งเครื่องจักรและดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2565 โดยปัจจุบันบริษัทมีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง.4) อยู่แล้ว

บริษัทพิจารณาแล้วเห็นว่าธุรกิจบรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์ชนิดอ่อนได้รับอานิสงส์จากพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคจากการเติบโตของธุรกิจ E-Commerce ที่เป็นส่วนในการผลักดันธุรกิจบรรจุภัณฑ์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทวางเป้าหมายรายได้ในปีแรกประมาณ 4,000 ล้านบาทและจะมีกำไรประมาณ 400 ล้านบาท คิดเป็น 10% ของรายได้ โดยบริษัทวางเป้ารายได้จะเติบโต 30% ต่อปี

สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการซื้อทรัพย์สิน เป็นเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนของบริษัทจากการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ TFI-W1 เป็นหุ้นสามัญ 500 ล้านบาทและเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา 500 ล้านบาท ซึ่งทั้งสองส่วนอาจปรับเพิ่มหรือลดขึ้นอยู่กับผลการเจรจากับสถาบันการเงิน

คณะกรรมการบริษัทฯ เห็นว่าค่าใช้จ่ายของโครงการอยู่ในระดับที่เหมาะสมและเชื่อว่าการลงทุนในธุรกิจบรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์ชนิดอ่อนจะเป็นการสนับสนุนธุรกิจหลักของบริษัทให้เติบโตและแข็งแกร่งยิ่งขึ้นและเป็นการเพิ่มแหล่งรายได้ให้บริษัทและจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นในอนาคตจึงอนุมัติโครงการดังกล่าว

ด้านผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวดปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2563 กำไรสุทธิ 26.39 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.012 บาท พลิกจากงวดปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 185.06 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.09 บาท

บริษัทมีรายได้จากการขายฟิล์ม 0.08 ล้านบาท เนื่องจากหยุดการผลิตทั้งหมดชั่วคราวตั้งแต่กลางเดือนก.ย.2562 เป็นต้นมา โดยเจรจากับคู่ค้าเพื่อนำฟิล์มสำเร็จรูปมาจำหน่ายเพื่อก่อให้เกิดรายได้ แต่เนื่องจากราคาฟิล์มบรรจุภัณฑ์ที่จะนำมาจำหน่ายมีต้นทุนสูง จึงมีความเสี่ยงต่อการขาดทุน บริษัทจึงจำเป็นต้องชะลอการนำสินค้ามาจำหน่าย

นอกจากนี้้มีรายได้อื่นจำนวน 60.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 จำนวน 45.27 ล้านบาท เกิดจากกำไรจากการกลับรายการด้อยค่าสินทรัพย์ 37.70 ล้านบาท กำไรจากการชำระหนี้เจ้าหนี้คดีความ 16.42 ล้านบาท รายได้ค่าเช่าเพิ่ม 0.74 ล้านบาทและรายได้การขายวัตถุดิบ เศษวัสดุอื่นๆลดลง 9.59 ล้านบาท นอกจากนี้ต้นทุนจัดจำนหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง 61.15 ล้านบาท