KTC ตีลังกากลับหลัง ราคาชนซิลลิง จากวันก่อนหน้าฟลอร์สนิท นักวิเคราะห์ 8 ราย ให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 32.27บาท เคทีบี และบัวหลวงหั่นมูลค่าเหมาะสมลง ฟินันเซียไซรัส-ไทยพาณิชย์เตือนนักลงทุนระมัดระวังการลงทุน DW อ้างอิงบัตรกรุงไทย
นักลงทุน งง เกิดอะไรขึ้นกับหุ้นบริษัทบัตรกรุงไทย (KTC) เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ราคาดิ่งฟลอร์สนิท วันรุ่งขึ้นกลับมีแรงไล่ซื้อจนขึ้นซิลลิงที่ 30 บาท ก่อนปิดที่ระดับ 29 บาท บวก 5.90 บาทหรือ 25.54% มูลค่าซื้อขายกว่า 4,089 ล้านบาท
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้หุ้น KTC พลิกกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เกิดจากนักวิเคราะห์หลายราย แนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุน เมื่อเห็นราคาร่วงลงไปต่ำมาก เมื่อเปรียบเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน ความสามารถในการทำกำไรที่ดีอยู่
ส่วนราคาเป้าหมายเฉลี่ย 32.27 บาทของนักวิเคราะห์จาก 8 บริษัท มีทั้งโบรกเกอร์ที่ยืนยันในราคาที่ประมาณการไว้เดิม และมีการปรับลดราคาลง เช่น บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคทีบี(ประเทศไทย) ลดราคาเป้าหมายจาก 36 บาทเหลือ 27 บาท และบล.บัวหลวง ปรับลดจาก 39 บาทเหลือ 32 บาท คาดกำไรกิจการจะขยายตัวเพียง 7% ในปีหน้า
ทั้งนี้ บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ให้ราคาสูงสุด 41 บาท ตามด้วย บล.เคทีซีมิโก้ 36 บาท บล.ฟินันเซียไซรัส 32.40 บาท บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ 31.50 บาท บล.ฟิลลิป 31.30 บาท และบล.เอเซีย เวลท์ ให้ราคา 27 บาท
นายสุรเชษฐ์ คมไพบูลย์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะผู้ดูแลสภาพคล่องและผู้ออกเสนอขายใบสําคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) บนหลักทรัพย์อ้างอิงของ KTC แจ้งเตือนให้นักลงทุน
ระมัดระวังการลงทุนในใบสําคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ดังกล่าว เนื่องจากมีอายุคงเหลือ 14 วัน และมีราคาใช้สิทธิต่ำกว่าราคาหุ้นอ้างอิงมาก(Deep-Out-of-Money) ขอให้นักลงทุนศึกษาข้อมูล DW ก่อนการลงทุนเสมอ
นาย ธนวัฒน์ พานิชเกษม กรรมการผู้จัดการ บล.ไทยพาณิชย์ เตือนว่า ปัจจุบันมีข้อจํากัดในการดูแลสภาพคล่องของใบสําคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์รุ่น KTC23C1809A ทางบล.ไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นผู้ออกจําหน่ายและทําหน้าที่ดูแลสภาพคล่องของ ใบสําคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์รุ่นนี้ ขอแจ้งให้ทราบว่าในบางช่วงเวลา ระดับราคาซื้อขายของใบสําคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ อาจไม่สอดคล้องกับราคารับซื้อคืนของบริษัทฯ นักลงทุนอาจเกิดผลขาดทุนจากการลงทุนได้ จึงแจ้งให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวังอย่างสูงในการลงทุน