HoonSmart.com>> ศักดิ์สยามลิสซิ่ง (SAK) เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 8 ธ.ค. 2563 นับเป็นหุ้นเติบโตสูง (Growth Stock) หลังฐานทุนมีความแข็งแกร่งพร้อมรุกขยายธุรกิจเติบโตเท่าตัวภายใน 3 ปี
“ผศ.ดร.พูนศักดิ์ บุญสาลี” ประธานกรรมการบริหารของ SAK กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยแก่ประชาชนฐานราก ภายใต้การกำกับดูแลจากหน่วยงานภาครัฐ โดยมีวิสัยทัศน์ก้าวเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยระดับชาติ จากศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญนานกว่า 25 ปี เทียบเท่าบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรม โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากธุรกิจบริหารจัดการหนี้มาก่อน จึงมีความเข้าใจในพฤติกรรมและความต้องการสินเชื่อของลูกค้าเพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนในการประกอบอาชีพและการดำรงชีพ ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้เริ่มเข้ามาให้บริการสินเชื่อรายย่อย เพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน
“จุดเด่นของเราเริ่มต้นธุรกิจจากการเก็บหนี้ในปี 2529 เราจึงมีความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี และมองเห็นโอกาสการก้าวเข้าสู่ธุรกิจการปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มที่ใช้เป็นเงินหมุนเวียน กู้เพื่อทำมาหากิน ซึ่งไม่มีหลักทรัพย์มากพอไปใช้บริการในสถาบันการเงิน เพื่อช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้สะดวก รวดเร็วและเป็นธรรม ภายใต้ผลิตภัณฑ์หลากหลายที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในท้องถิ่น”
ทั้งนี้หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯ มีเป้าหมายขยายธุรกิจให้เติบโตในทุกมิติภายในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 2566 ขยายพอร์ตสินเชื่อเพิ่มเป็น 12,000 ล้านบาทจากที่มีอยู่จำนวน 6,067 ล้านบาท พร้อมวางเป้าหมายขยายสาขาให้บริการเพิ่มเป็น 1,119 สาขา ไปยังภูมิภาคอื่นๆ ครอบคลุมในอำเภอ ตำบลใหญ่ และในอนาคตจะลงลึกถึงระดับหมู่บ้าน จากเดิมมีเครือข่ายสาขาที่ให้บริการ 519 สาขา รวม 38 จังหวัด (ณ วันที่ 30 มิ.ย.63) ครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันตก
นายศิวพงศ์ บุญสาลี กรรมการผู้จัดการของ SAK กล่าวว่า การระดมทุนครั้งนี้ได้ช่วยเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้มีความแข็งแกร่ง โดยก้าวพ้นขีดจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และได้รับการยอมรับจากสถาบันการเงิน สามารถใช้กลยุทธ์ต่างๆได้มากขึ้น เพื่อขยายธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในทุกมิติจากแผนงานขยายผลิตภัณฑ์สินเชื่อให้มีความหลายมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศขึ้นเองอย่างต่อเนื่องเข้ามาใช้ขับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของบริษัทในระยะยาว
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทมีความสามารถในการติดตามการจัดเก็บหนี้ และบริหารความเสี่ยงของการปล่อยสินเชื่อ ทำให้มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ NPLs ต่ำ ซึ่งไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ NPLs ลดลงมาก เกือบใกล้ระดับต่ำสุด และในแต่ละเดือนมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ไม่น้อยกว่า 10% ขณะที่ยังคงรักษาฐานลูกค้าเก่าได้อย่างเหนียวแน่น ทำให้ลูกค้าเติบโตทุกปี
“แม้ว่าในอุตสาหกรรมนี้จะมีการแข่งขันที่จะสูงและรุนแรง แต่ผมมั่นใจว่า SAK มีศักยภาพในการสร้างกำไรเติบโตสูงโดยตลอด โดยการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้เรามีทรัพยากรเพื่อแข่งขันที่ดีขึ้น และด้วยสัดส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ที่ลดต่ำลง ยังสามารถที่จะกู้ยืมเงินมาขยายธุรกิจได้อีกมาก ขณะที่ตลาดสินเชื่อนี้มีขนาดใหญ่ คาดว่าไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท ดังนั้น เราจึงมั่นใจว่าจะผลักดันการเติบโตทางธุรกิจของ SAK เป็นเท่าตัวภายใน 3 ปี ข้างหน้า และหากเศรษฐกิจเติบโตดีเชื่อว่าจะช่วยให้โตได้มากกว่านี้” นาย ศิวพงศ์ บุญสาลี กล่าว
ปัจจุบัน บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SAK มีบริการผลิตภัณฑ์สินเชื่อ 4 ประเภท ประกอบด้วย 1.สินเชื่อทะเบียนรถ (Vehicle Title Loan) 2.สินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan) 3.สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ (Nano Finance) 4.สินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อรถแลกเงิน (Hire-Purchase and Car for Cash) ประชาชนทุกระดับสามารถไปใช้บริการได้ตลอดเวลา
ขณะที่ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา 3 ปี (2560-2562) SAK มีพอร์ตลูกหนี้มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 33.5% ส่งผลให้รายได้เติบโตเฉลี่ย 31.6% สอดคล้องกับกำไรเติบโตเฉลี่ย 28% โดยสามารถรักษาอัตรากำไรสุทธิได้ในระดับสูงถึง 31-33% ณ วันที่ 30 มิ.ย.2563 บริษัทฯ มีพอร์ตสินเชื่อรวม 6,067 ล้านบาท จากจำนวนสัญญาสินเชื่อรวม 230,273 สัญญา แบ่งเป็นลูกหนี้ที่มีหลักประกัน 88% และลูกหนี้ไม่มีหลักประกัน 12% ของพอร์ตสินเชื่อรวม
ทั้งนี้ กำไรสุทธิในปี 2562 ทำได้ 346 ล้านบาท เทียบจากกำไรสุทธิ 398 ล้านบาทในปี 2561 เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในการเปลี่ยนสัญญาของลูกค้าเพื่อเข้าสู่ระบบของ ธปท. อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมรายการพิเศษที่เกิดขึ้นในปี 2562 นั้น SAK มีกำไรสุทธิสูงถึง 476 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 29.4%
นางสาวพันทิตา แซ่เอ็ง รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจวาณิชธนกิจ บล.ธนชาต ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO กล่าวว่า ในการจองซื้อหุ้น IPO ของ SAK ที่ผ่านมา หุ้น SAK ขายหมดและได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายย่อยเป็นจำนวนมาก สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ SAK และแผนงานสร้างการเติบโตในระยะยาวที่มีความชัดเจน นอกจากนี้ การเข้าถึงแหล่งเงินทุนของศักดิ์สยามลิสซิ่งจะยิ่งเสริมความแข็งฐานะทางการเงินและโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจ และมั่นใจว่า SAK จะได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องในวันเข้าซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในกลุ่มธุรกิจการเงิน หมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ (FIN) ในวันที่ 8 ธ.ค. 2563