ฟ้องกันนัวเนีย “ณพ” ขอคุ้มครองชั่วคราวหุ้น WEH 13%

HoonSmart.com>>”โกลเด้น มิวสิค ” ร้องศาลขอคุ้มครอชั่วคราว ประชุมผถห. 10 ก.ย. นี้ ขอให้ระงับการใช้สิทธิหุ้นที่ “ประเดช” รับโอนจากโกลเด้น มิวสิค 13 % ด้าน “ประเดช” ยันสิทธิการออกเสียงเป็นของผถห. ส่วนเรื่องเงินจ่ายไม่ครบ ให้เป็นคดีแพ่ง ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ พูดชัด บริษัทใด ๆ จะเข้าตลาดต้องไม่มีปัญหาผู้ถือหุ้นรายย่อย ถูกเอาเปรียบ 

  ณพ ณรงค์เดช

เช้าวันนี้ (8 ก.ย.) บริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด ผู้ถือหุ้นใหญ่ สัดส่วน 37 % ของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้คุ้มครองชั่วคราว ไม่ให้นายประเดช กิตติอิสรานนท์ หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ WEH ใช้สิทธิตามสัดส่วนหุ้น WEH ที่ได้รับโอนมาจากโกลเด้น มิวสิคฯ  ทั้งหมด  13%  ระงับการออกเสียงลงคะแนนต่างๆ ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่กำหนดมีขึ้นในวันที่ 10 ก.ย.นี้ และการประชุมครั้งต่อๆ ไป

รวมทั้งอายัดหุ้นของนายประเดช ไม่ให้จำหน่ายจ่ายโอนให้กับบุคคลอื่น เนื่องจาก โกลเด้น มิวสิคฯ เตรียมยื่นคำเสนอข้อพิพาทกับนายประเดชต่อสำนักงานอนุญาโตตุลาการฯ

คดีพิพาทดังกล่าว สืบเนื่องจากโกลเด้น มิวสิคฯ อ้างว่าได้ทำสัญญาขายหุ้น WEH ให้นายประเดช 14,390,244 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 13% ของหุ้นทั้งหมด คิดเป็นมูลค่า 5,900 ล้านบาท แต่นายประเดชจ่ายเงินไม่ครบถ้วน คงเหลือเงินที่ถึงกำหนดต้องชำระ แต่ยังไม่ได้ชำระอีก 2,005 ล้านบาท ดังนั้น โกลเด้น มิวสิคฯ จึงบอกเลิกสัญญา แต่นายประเดชเพิกเฉย จึงนำไปสู่การเสนอข้อพิพาทต่อสำนักงานอนุญาโตตุลาการ

แหล่งข่าวนักกฎหมาย กล่าวว่า กรณีนี้ ศาลไม่คุ้มครองอยู่แล้ว เพราะตามกฎหมายผู้ที่เป็นเจ้าของหุ้น มีสิทธิออกเสียง ส่วนเงินที่จ่ายกันไม่ครบ สามารถไปฟ้องร้องคดีแพ่ง  ซึ่งกรณีนี้ เชื่อว่านายประเดช จะฟ้องกลับ เพราะเอาหุ้นมีปัญหามาขายให้ ทำให้นายประเดช ถูกนายนพพร ศุภพิพัฒน์ เจ้าของเดิม WEH ฟ้องนายประเดช คดีร่วมรับของโจรที่ศาลอังกฤษด้วย

วันเดียวกัน (8 ก.ย.) ที่ศาลแพ่ง กรุงเทพใต้ นายสรศักดิ์ เชาวณัฏ นักธุรกิจ เจ้าของบริษัท โรงเรียนการดนตรีแห่งหนึ่ง เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง นายณพ ณรงค์เดช ซึ่งเป็นหุ้นส่วน เรื่องผิดสัญญาไม่ชำระเงินจากการซื้อหุ้นบริษัทโรงเรียนการดนตรี และคอนโดมิเนียม เป็นเงินกว่า 136 ล้านบาท ซึ่งศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณา

นายสรศักดิ์ เล่าว่า ปี 2557 ได้เปิดโรงเรียนสอนดนตรี ชื่อ “เพนต้า ซิสเต็มส์” และได้รู้จักนายณพ ผ่านทางนายณัฐวุฒิ เภาโบรมย์  จากนั้นนายณพ ได้ตกลงซื้อหุ้น “เพนต้า ซิสเต็มส์ “สัดส่วน 70 % เป็นเงินกว่า 160 ล้านบาท  แต่ไม่ชำระเงินตามที่ตกลงไว้ รวมทั้งนายณพ เสนอให้นายสรศักดิ์ ขายคอนโดให้ ราคา 20 ล้านบาท โดยโอนสัญญากรรมสิทธิ์ ให้นายณพ ซึ่งอ้างว่าสามารถกู้เงินกลับมาให้นายสรศักดิ์ได้ แต่ผ่านมา กว่า 1 ปี ยังไม่ได้เงินจากการซื้อขายคอนโด ฯ กระทั่งมารู้ข่าว นายณพ มีข้อพิพาทกับบิดา และปัญหาซื้อหุ้น WEH จึงมั่นใจว่าถูกเบี้ยงเงิน จึงมาฟ้องร้องศาล

ส่วนที่มาฟ้องคดี หลังจากเกิดเหตุการณ์มาหลายปี เพราะมีความเชื่อใจ และมองว่านายณพ เป็นเหมือนน้องชาย ประกอบกับรู้จักกับครองครัวนายณพ ด้วย  ยืนยันว่า ตนเอง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรู้จักกับผู้บริหาร WEH แต่อย่างใด

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า การที่ WEH จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้หรือไม่ นอกจากธุรกิจ จะเติบโตและสร้างกำไรได้ ต้องไม่มีปัญหาเรื่องผู้ถือหุ้นรายย่อยถูกเอาเปรียบ  ซึ่งผู้ดูแลจะมีทั้งตลาดหลักทรัพย์ และ ก.ล.ต. หากไม่มีปัญหาก็เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทอะไรก็ตาม”

อ่านประกอบ

“ณัฐวุฒิ เภาโบรมย์-ธันว์ เหรียญสุวรรณ” ชิงลาออก WEH ลดความขัดแย้ง “ณพ-ประเดช”