กองทุน FIF วูบ 1.6 แสนล้าน ครึ่งปีทั้งระบบหาย 8.4 หมื่นล.

กองทุนรวมครึ่งปีแรกปี’ 61 มูลค่าสินทรัพย์ลดลง 8.4 หมื่นล้านบาท NAV เหลือ 4.93 ล้านล้านบาท เหตุหุ้นโลกร่วงฉุดมูลค่ากองทุน FIF ลดลงสูงสุด 1.6 แสนล้าน ด้าน LTF หด 4 หมื่นล้าน

สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เปิดเผยตัวเลขมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) ของกองทุนรวมทั้งระบบ ณ วันที่ 29 มิ.ย.2561 มีมูลค่า 4,932,371 ล้านบาท ลดลง 83,972 ล้านบาท หรือลดลง 1.67% จากสิ้นปี 2560 ซึ่งมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิอยู่ที่ 5,016,344 ล้านบาท

ทั้งนี้ มูลค่าสินทรัพย์ของกองทุนรวมลดลงมากในเดือนมิ.ย.สูงถึง 72,302 ล้านบาท หรือลดลง 1.44% ส่วนหนึ่งผลจากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงแรง รวมทั้งผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้และพันธบัตรก็ลดลง

กองทุนเพื่อไปลงทุนต่างประเทศ (FIF) ถือเป็นกองทุนที่มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิลดลงมากที่สุดจำนวน 160,711 ล้านบาท หรือ -14.56% จากสิ้นปี 2560 อยู่ที่ 1,103,883 ล้านบาท ลดลงเหลือ 943,171 ล้านบาท ขณะที่กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นไทยมูลค่าสินทรัพย์เพิ่ม 24,202 ล้านบาท หรือ 1.76% มาอยู่ที่ 1,399,521 ล้านบาท ผลจากมีกองทุนออกใหม่ 36 กองทุน

ด้านกองทุนตราสารหนี้ ซึ่งมีสินทรัพย์มากสุดจากทุกประเภทพบมูลค่าสินทรัพย์สุทธิลดลง 141,236 ล้านบาท หรือลดลง 5.21% จาก 2,711,499 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2560 ลดลงเหลือ 2,570,263 ล้านบาท ณ ครึ่งแรกของปีนี้ โดยกองทุนรวมตลาดเงิน (มันนี่ มาร์เก็ต) ซึ่งเป็นแหล่งพักเงินและลงทุนระยะสั้นมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิลดลงมากถึง 40,439 ล้านบาท หรือลดลง 14.91% จาก 271,138 ล้านบาท เหลือ 230,698 ล้านบาท

ขณะเดียวกันพบว่ากองทุนรวมแบบผสม ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหุ้นได้ตั้งแต่ 0-100% ผู้จัดการกองทุนสามารถปรับพอร์ตลงทุนได้ตามภาวะตลาด ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น โดยมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิเพิ่มขึ้น 14,294 ล้านบาท หรือ 3.85% มาอยู่ที่ 386,054 ล้านบาท

ส่วนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) มูลค่าสินทรัพย์ลดลง 40,150 ล้านบาท หรือลดลง 10.11% จากสิ้นปี 2560 ลงมาอยู่ที่ 359,975 ล้านบาท และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ลดลง 7,833 ล้านบาท หรือลดลง 3.12% จากสิ้นปี 2560 เหลือ 243,610 ล้านบาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย ยังครองส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจกองทุนรวม โดยมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 997,182 ล้านบาท ส่วนแบ่ง 20.22% รองลงมาบลจ.ไทยพาณิชย์ 920,449 ล้านบาท ส่วนแบ่ง 18.66% อันดับสาม บลจ.บัวหลวง มูลค่า 706,908 ล้านบาท ส่วนแบ่ง 14.33% อันดับสี่ บลจ.กรุงไทย มูลค่า 567,913 ล้านบาท ส่วนแบ่ง 11.51% และอันดับห้า บลจ.ทหารไทย มูลค่า 396,621 ล้านบาท ส่วนแบ่ง 8.04%

ด้านบลจ.โซลาริส ซึ่งได้รับผลกระทบจากตั๋วบี/อีผิดนัดชำระหนี้ในอุตสาหกรรม จนบริษัทฯ ต้องทยอยปิดกองทุน ล่าสุดมูลค่าสินทรัพย์สุทธิเหลือ 31.25 ล้านบาท ลดลง 836.64 ล้านบาท หรือลดลง 96.40% จากสิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 867.89 ล้านบาท โดยเหลือกองทุนเพียง 3 กองทุน