HoonSmart.com>>บลจ. ยูโอบี เปิดตัวกองทุน “ยูไนเต็ด อิควิตี้ ซัสเทนเนเบิล โกลบอล ฟันด์ (UESG)” ลงทุนหุ้นยั่งยืนคุณภาพทั่วโลก ผ่านการคัดสรรหุ้นคุณภาพและเลือกหุ้นโดยประเมินจากเกณฑ์ ESG เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนเชิงบวกในระยะยาวแก่นักลงทุน เสนอขายครั้งแรก 17 -21 ส.ค.นี้
น.ส.รัชดา ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) มองว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนไทย ในการเลือกลงทุนในบริษัทที่มีการใช้หลักเกณฑ์ ESG ในการดำเนินธุรกิจ ประกอบกับมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้นทั่วโลก (Global Equities) โดยตลาดหุ้นโลกในภาพรวมยังสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี ภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวและมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
บลจ. ยูโอบี คัดสรรกองทุนที่ลงทุนในหุ้นคุณภาพในธีมการลงทุน ESG โดยแนะนำ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด อิควิตี้ ซัสเทนเนเบิล โกลบอล ฟันด์ (UESG) เสนอขายครั้งแรกวันที่ 17-21 ส.ค.2563 เน้นลงทุนในหุ้นยั่งยืนที่มีคุณภาพทั่วโลก กองทุนประเภท feeder fund ที่ลงทุนผ่าน Robeco’s Sustainable Global Stars Equities Fund (กองทุนหลัก) บริหารกองทุนโดย Robeco Institutional Asset Management B.V. ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นผู้นำระดับโลกด้านการลงทุนอย่างยั่งยืน โดยได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ใน 75 บริษัทผู้จัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สำหรับการปฏิบัติตามแนวทางการลงทุนที่ยั่งยืน โดย ShareAction องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่สนับสนุนการลงทุนเพื่อสิ่งที่ดี
Robeco’s Sustainable Global Stars Equities Fund (กองทุนหลัก) เป็นกองทุนที่ได้รับการจัดอันดับเรทติ้ง 5 ดาว จาก Morningstar (ณ 31 ก.ค. 2563) โดยมีกลยุทธ์ที่เน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพจากประเทศที่พัฒนาแล้วทั่วโลกและมีศักยภาพสูงในการเพิ่มมูลค่า การเลือกหุ้นขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ปัจจัย ESG อย่างเข้มงวด โดยมุ่งเน้นไปที่บริษัทที่มีความเข้าใจในหลักการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน มีกระแสเงินสดสูง และผลตอบแทนที่แข็งแกร่งจากเงินลงทุน
น.ส. รัชดา กล่าวว่า การประสานการคัดเลือกหุ้นคุณภาพโดยใช้ปัจจัยทางด้าน ESG เข้าไปเสริมในกระบวนการลงทุนนั้น จะทำให้กองทุน UESG สามารถตอบโจทย์นักลงทุนทั้งการเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีอย่างยั่งยืนในระยะยาว และลดความเสี่ยงระดับบริษัทในพอร์ตการลงทุนได้ โดย Robeco’s Sustainable Global Stars Equities Fund (กองทุนหลัก) สามารถสร้างผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี ที่ 36% ซึ่งชนะเกณฑ์มาตรฐาน MSCI World NR EUR อยู่ที่ 11.5% (ที่มา : Morningstar Direct ณ 31 ก.ค. 2563)
การลงทุนที่ยั่งยืน (Sustainable Investing) เป็นรูปแบบการลงทุนที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ให้ความสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ สิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) หรือ ESG การลงทุนในมิติของ ESG นี้ เป็นเทรนด์ที่กำลังเติบโตและเป็นที่นิยม โดยเฉพาะในต่างประเทศ เริ่มจากประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ซึ่งแพร่ขยายอย่างรวดเร็วไปทั่วโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
กลุ่มธุรกิจจัดการกองทุน ยูโอบี ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาลมาโดยตลอด ถือเป็นวิสัยทัศน์หลักในการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม โดยนำแนวคิด Sustainability มาปรับใช้ในการพัฒนาองค์กรในทุกมิติ รวมทั้งการบริหารจัดการกองทุนโดยนำปัจจัยด้าน ESG มาผนวกในการวิเคราะห์และเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการลงทุน (ESG Integration) ซึ่งกลุ่มธุรกิจจัดการกองทุน ยูโอบี เชื่อมั่นว่า ESG จะช่วยเสริมกระบวนการลงทุน ให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด พร้อมช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ ในระดับบริษัทที่ลงทุน
“กลุ่มธุรกิจจัดการกองทุน ยูโอบี และบลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) มุ่งมั่นที่จะนำเสนอการลงทุนในบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (Sustainable and Responsible Investing) โดยเมื่อเดือนมกราคม 2563 กลุ่มธุรกิจจัดการกองทุน ยูโอบี ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทบริหารสินทรัพย์ระดับภูมิภาคแห่งแรกในสิงคโปร์ ได้ลงนามในหลักการสนับสนุนการลงทุนอย่างรับผิดชอบร่วมกับ UNPRI (UNPRI : Principles for Responsible Investment) และ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) ในฐานะบริษัทย่อยของกลุ่มธุรกิจจัดการกองทุน ยูโอบี ร่วมยึดมั่นตามวิสัยทัศน์ โดยเป็นหนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแรกๆ ในประเทศไทย ที่ปฏิบัติตามแนวทางของ PRI เกี่ยวกับการบูรณาการปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมสังคมและธรรมาภิบาล (ESG) ในกระบวนการลงทุน”น.ส.รัชดา กล่าว
กระบวนการเสริม ESG เข้าสู่กระบวนการลงทุนตามแนวทางของ UNPRI นั้น เป็นกลยุทธ์ในระดับภูมิภาคของกลุ่มธุรกิจจัดการกองทุน ยูโอบี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพต่อกระบวนการลงทุน และมุ่งมั่นนำเสนอทางเลือกการลงทุน (Investment Solution) ที่ตอบโจทย์และยังแสดงความรับผิดชอบต่อนักลงทุนทั่วภูมิภาคเอเชีย โดยเชื่อว่าจะเป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจแก่ผู้ลงทุนได้ในระยะยาว
ส่วนในประเทศไทยนั้น ธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม ได้นำเอาปัจจัย ESG มาประกอบกับกระบวนการทางธุรกิจและมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยแนวคิดหลักที่ธุรกิจจะต้องมี คือการบริหารจัดการที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการบริหารงานเพื่อผลประกอบการที่ดี ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการลดความเสี่ยงจากการลงทุนในบริษัทได้ในระดับหนึ่ง