DOD กำไรโตสวนกระแสโควิด-19 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารพุ่ง

HoonSmart.com>> “ดีโอดี ไบโอเทค” โชว์งบ Q2/63 กำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% จากงวดปีก่อน ทะยาน 329% จากไตรมาสก่อน รายได้จากการขาย 430 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 212% จากงวดปีก่อน ขานรับออเดอร์พุ่งอานิสงส์โควิด-19 ระบาด ด้าน CEO “ธนิน ศรีเศรษฐี” ตอกย้ำความแข็งแกร่งผู้นำการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบครบวงจร เร่งผุดไลน์การผลิตโปรดักส์ใหม่ “ซอฟท์เจล”และ”โพรไบโอติกส์” ตอบโจทย์ดีมานด์ทะลักเทรนด์รักสุขภาพช่วงครึ่งปีหลัง

ธนิน ศรีเศรษฐี

นายธนิน ศรีเศรษฐี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) เปิดเผยถึงภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2/2563 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2563 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 430 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 238% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 76 ล้านบาท และกำไรส่วนของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 354% และ 329% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรก 2563 ของบริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 772 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 212% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯมีรายได้จากการขาย อยู่ที่ 247 ล้านบาท และกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 103 ล้านบาท และกำไรส่วนของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77% และ 75% ตามลำดับ เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

“บริษัทฯสามารถเติบโตสวนกระแสกับภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ทั้งยอดขาย กำไรจากการดำเนินงาน และกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ โดยบริษัทฯมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทฯ 76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ เพิ่มขึ้น 329% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ และมีรายได้จากการขาย 430 ล้านบาท เติบโต 212% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 238% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ การเติบโตเป็นผลจากยอดคำสั่งซื้อผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เพิ่มอย่างเห็นได้ชัดเพราะมาตรฐานในการผลิตและคุณภาพของสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี”นายธนิน กล่าว

นายธนิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2/2563 เติบโตโดดเด่น เนื่องจากธุรกิจผลิตอาหารเสริมเพื่อสุขภาพส่งสัญญาณการเติบโตชัดเจนหลังจากการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกเป็นจำนวนมาก เป็นตัวเเปรกระตุ้นพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยหันมาให้ความสำคัญเรื่องการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น อีกทั้งธุรกิจผลิตสำอางยังได้รับประโยชน์จากความต้องการสินค้ากลุ่มสุขอนามัยที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับธุรกิจเครือข่ายก็มีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นส่งผลให้ขาดทุนลดลงเทียบกับช่วงไตรมาสที่ 1/2562 ที่ผ่านมา

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่าจะเห็นการเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มลูกค้ารายใหญ่หลายรายที่มีศักยภาพมีออเดอร์ในส่วนของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดไลน์การผลิตในส่วนของผลิตภัณฑ์เม็ดแคปซูลเม็ดตอก และผลิตภัณฑ์ผงชงดื่มแบบบรรจุกระป๋องได้ใช้อัตราการผลิตเกือบเต็มกำลังการผลิตแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/2563 เป็นต้นไป

ขณะเดียวกันบริษัทฯได้เดินหน้าขยายไลน์การผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ ในรูปแบบซอฟท์เจล และผลิตภัณฑ์ประเภทโพรไบโอติกส์ (Probiotics) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะมีความชัดเจนและสามารถเดินหน้าการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 4/2563 เป็นส่วนช่วยผลักดันรายได้รวมและอัตรากำไรขั้นต้นเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับธุรกิจเครื่องสำอางอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างภายในให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นให้พร้อมจะรับกับคำสั่งซื้อที่จะฟื้นตัวกลับมาในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วนธุรกิจเครือข่าย เริ่มส่งสัญญาณกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้นหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในไทยดีขึ้นเป็นลำดับ

นายธนิน กล่าวตอกย้ำถึงกลยุทธ์ปรับโครงสร้างองค์กรรูปแบบ Synergy กันภายใต้แนวทาง 1+1=3 ว่า ธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพภายใต้ดูแลของ DOD และบริษัท พีซีซีเอ แล็บบอราเทอรี่ จำกัด (PCCA) ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ประกอบธุรกิจความงามและเครื่องสำอางได้ประสานเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าทั้ง 2 กลุ่ม ทั้งผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพและกลุ่มความงามจะส่งผลให้ขยายฐานลูกค้าใหม่ให้กว้างมากขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพในธุรกิจให้มีความความหลากหลายและครบวงจรโดยจะทำให้บริษัทฯมีการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน