GULF รับเละ กำไร1,880 ลบ. ธุรกิจโต-ค่าเงินช่วย-รับปันผล

HoonSmart.com>>”กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี” เงินลงทุนออกดอกออกผลมากขึ้น  รับรู้รายได้จากโครงการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ขยายฐานลูกค้าอุตสาหกรรมใหญ่  ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมิ.ย.  กำไรอัตราแลกเปลี่ยน  892 ล้านบาท 

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/2563 มีกำไรสุทธิ 1,880 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 277 ล้านบาท หรือ 17.28% และพลิกจากขาดทุนสุทธิ 413 ล้านบาทในไตรมาสแรก โดยรวม 6 เดือนปีนี้มีกำไรสุทธิ 1,467 ล้านยาทลดลง 1,429 ล้านบาทหรือ 49% จากที่มีกำไรสุทธิ 2,896 ล้านบาท

ในไตรมาส 2/2563 บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 989 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อนและดีขึ้น 6.9% จากไตรมาสแรกที่ทำได้ 925 ล้านบาท รวม 6 เดือนแรกเพิ่มขึ้น 3.9% เป็น 1,914 ล้านบาท

กำไรที่ดีขึ้นมาจากรายได้จากการขายและให้บริการจำนวน 7,773 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.8% เพราะรับรู้รายได้เต็มไตรมาส ของโรงไฟฟ้า SPP ทั้ง 12 โครงการในกลุ่ม ซึ่งสามารถขายไฟฟ้าให้แก่กฟผ.ได้สูงขึ้นถึง 14.1% เพราะในไตรมาส 2/2562 ได้มีการปรับปรุงสายส่งขนาด 500 กิโลโวลต์ในจังหวัดระยองของ กฟผ.เป็นเวลา 37 วัน ส่งผลให้โรงไฟฟ้า 6 โครงการมีรายได้จากการขายไฟลดลง

รวมถึงการรับรู้รายได้เต็มไตรมาสจากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ GTN2 ในประเทศเวียดนาม และโรงไฟฟ้าชีวมวล GCG เทียบกับในไตรมาส 2/2562 โครงการ GTN2 เพิ่งเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในวันที่ 19 เม.ย. 2562 และยังมีการหยุดซ่อมบำรุงรักษาตามแผนงาน (B-inspection) ของโครงการ GTS1 เป็นเวลา 18 วัน

ขณะเดียวกันฐานลูกค้าอุตสาหกรรมยังเพิ่มขึ้น ทั้งจากลูกค้าเดิมที่มีการขยายธุรกิจและจากลูกค้าใหม่ แม้ว่าปริมาณการขายไฟจะลดลงเนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดก็ตาม  อย่างไรก็ดีความต้องการใช้ไฟฟ้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563 เป็นต้นมา

ในไตรมาส 2/2563 บริษัทมีกำไรอัตราแลกเปลี่ยน 892 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% จากช่วงเดียวกันปีก่อนและเพิ่มขึ้นถึง166.7% จากไตรมาสแรก และมีรายได้เงินปันผลรับ 81 ล้านบาท จาก SPCG เพิ่มขึ้น 40%  แต่มีต้นทุนทางการเงิน 836 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนและเพิ่มขึ้น 1.7% จากไตรมาสแรก